โรงเรียนสอนเด็กยิว-มุสลิมที่อิสราเอล ความหวังแห่งการอยู่ร่วมกันในพหุสังคม

  • VOA

ศาสนาสถานในเขตเมืองเก่าของเยรูซาเลมในอิสราเอล ที่ชาวมุสลิมเรียกว่า Noble Sanctuary และชาวยิวเรียกว่า Temple Mount

สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสเปิดรอยร้าวที่หยั่งลึกระหว่างชาวยิวและชาวมุสลิมทั่วโลกไม่เพียงแต่ในพื้นที่ความขัดเเย้งเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ที่เมืองไฮฟาของอิสราเอล มีตัวอย่างของความพยายามประสานความแตกต่างและสร้างความเข้าใจกันในชุมชนที่มีประชาชนผู้นับถือศาสนาต่างกัน

ครอบครัวที่มีคุณพ่อชาวยิว ชือ กาย เอลฮานาน ตัดสินใจให้ลูก ๆ ของเขาได้รับการศึกษาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่เปิดโอกาสให้นักเรียนชาวยิวและชาวมุสลิมได้เป็นเพื่อนกัน

เอลฮานาน กล่าวว่า วิธีนี้ “มีประโยชน์หลายอย่าง และถ้าต้องให้เลือกว่าอะไรที่ (เด็ก ๆ) ยังขาดอยู่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ความเป็นยิว สิ่งนั้นก็คือความรู้สึกกลัวผู้อื่น”

เขาบอกด้วยว่า ตนกำลังต่อสู้กับสังคมอิสราเอล ที่มีเงื่อนปมความขัดแย้ง และการขับเคลื่อนที่เต็มไปด้วยความแตกแยก การหมางเมินกันและการเผชิญหน้ากัน

เอลฮานานบอกว่า “คนหลาย ชั่วอายุ ได้เห็นดอกผล ยิ่งกว่าความงอกงาม จากวัฒนธรรมยิวและอิสลาม ที่เติบโตเคียงคู่กัน สองวัฒนธรรมนี้ไม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยปราศจากกันและกัน”

นั่นคือสาเหตุที่เขาต้องการให้ลูก ๆ ได้เข้าเรียนในสถานที่ที่มีเด็ก ๆ มุสลิมด้วย นักเรียนเหล่านี้เป็นชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ ที่เป็นลูกหลานชาวปาเลสไตน์ และกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอิสราเอล หลังจากที่อิสราเอลเป็นเอกราชในปี 1948 หรือ 75 ปีก่อน

Your browser doesn’t support HTML5

โรงเรียนสอนเด็กยิว-มุสลิมที่อิสราเอล ความหวังแห่งการอยู่ร่วมกันในพหุสังคม

ทั้งนี้ชาวอาหรับมีสัดส่วนคิดเป็น 18% ของคนในประเทศอิสราเอล และในบรรดาชาวอาหรับเหล่านั้นก็คือเพื่อนรักของลูกชายเอลฮานานด้วย

“ผมอยากบอกว่า ทั้งอะดัมและเลียม เป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ ทั้งคู่เล่นฟุตบอลเก่ง พวกเขามีแม่เป็นชาวยิวและพ่อเป็นชาวปาเลสไตน์” เอลฮานานกล่าว

เมืองไฮฟา ที่เป็นที่ตั้งของครอบครัวเอลฮานาน เป็นมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยจะเห็นหลายบ้านที่คุณพ่อคุณแม่แต่งงานข้ามวัฒนธรรมยิวและมุสลิม รวมทั้งจะได้เห็นการอยู่ร่วมกันของชุมชนที่นับถือศาสนาต่างกัน

บรรยากาศสังคมที่ไฮฟาช่วยให้คนที่นั่นสามารถพูดถึงสงครามในกาซ่าในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีตัวอย่างอยู่ที่มัสยิดมาห์มูด ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านไปไม่นานนี้ ที่นั่นชาวยิวและชาวมุสลิมร่วมงานกันในความพยายามส่งสารแห่งการอยู่ร่วมกันและสันติภาพไปสู่ส่วนอื่น ๆ ของประเทศ

โมฮัมเมด ชาริฟ โอ๊ด แห่งชุมชนมุสลิมอะห์มาดิย์ยา กล่าวว่า “ผมเชิญเพื่อนบ้านของเราทุกคน ที่กลัวเรา .... เพื่อว่าจะได้บอกพวกเขาว่าเราอยู่ตรงนี้อย่างสงบมาก่อนและหลังอิสราเอล...และเราอยู่ในชุมชนร่วมกัน”

แม้ว่าสงครามในกาซ่ากำลังดำเนินไป แต่ ณ สถานที่แห่งนี้ ชาวอิสราเอลและชาวมุสลิมอาศัยพื้นที่ร่วมกัน มีคนที่เชื่อในการหาทางออกสำหรับความขัดแย้ง และเชื่อด้วยว่าสันติภาพที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ในที่สุด

  • ที่มา: วีโอเอ