คณะตรวจสอบของสหประชาชาติพบว่าซาอุดิอาระเบียอาจจะเจาะล้วงข้อมูลโทรศัพท์ของมหาเศรษฐีอเมริกัน นายเจฟฟ์ เบโซส ซีอีโอของบริษัทค้าปลีกแอมะซอน และเจ้าของหนังสือพิมพ์ Washington Post
คณะทำงานของยูเอ็นด้านสิทธิมนุษยชน สรุปในรายงานที่ถูกเปิดเผยในวันพุธว่า คลิปวิดีโอที่ถูกส่งมาทาง WhatsApp ของมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน สู่เครื่องของนายเบโซส เป็นคลิปที่มีไวรัส ซึ่งใช้ในการแฮ็คข้อมูลโดยอาจกลายเป็นช่องทางต่อรองให้หนังสือพิมพ์ Washington Post เสนอข่าวที่เอื้อประโยชน์ต่อซาอุดิอาระเบียได้
เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสานต่อการตรวจสอบหาความจริง
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของสหประชาชาติ ที่วิเคราะห์ข้อมูลโทรศัพท์ของนายเบโซส พบว่า ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่คลิปวิดีโอที่มีปัญหาถูกดาวน์โหลด โทรศัพท์ของนายเบโซสก็เริ่มมีอาการผิดปกติ และในช่วงหลายเดือนหลังจากนั้น ข้อมูลจำนวนมากในโทรศัพท์ของนายเบโซส ถูกส่งออกไปจากเครื่อง
สถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำสหรัฐฯ ตอบโต้ข่าวนี้ โดยบอกว่า "เป็นเรื่องน่าขัน" และเรียกร้องให้เกิดการสอบสวนเพื่อให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์
เรื่องนี้น่าจะยิ่งสร้างความกระทบเทือนต่อความสัมพันธ์ของมกุฏราชกุมารบิน ซัลมาน และนายเบโซสซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
ทั้งสองเคยมีปัญหากัน เมื่อคอลัมนิสต์ของ Washington Post นายจามาล คาชอกกี ผู้ที่มักวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ ถูกสังหารโดยชาวซาอุฯ ในตุรกีเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561
ทั้งนี้การแฮ็คโทรศัพท์นายเบโซสเกิดขึ้นก่อนที่นายคาชอกกี ถูกสังหาร
ผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติกล่าวว่า ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ว่ามกุฏราชกุมารซาอุฯ อาจมีส่วนในความพยายามสอดแนมนายเบโซส ในการส่งผลต่อการรายงานข่าว Washington Post ที่เกี่ยวกับซาอุดิอาระเบีย
SEE ALSO: 'ทรัมป์' กร้าว! มกุฏราชกุมารซาอุฯ ต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของ 'คาชอกกี'