คุณยายทวดอายุ 91 ปีเรียนภาษาอังกฤษด้วยความช่วยเหลือของคนในครอบครัว เธอหวังว่าจะได้ใช้ภาษานี้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้าที่กรุงโตเกียว
คุณยายทวดเซ็ตซึโกะ ทาคามิซาว่า ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าคนเราไม่มีใครแก่เกินเรียน
คุณทวดทาคามิซาว่า เป็นหนึ่งในผู้คนกว่า 200,000 คนที่สมัครเป็นอาสาสมัครในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี พ.ศ. 2563 ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่ก็เป็นทักษะที่มีประโยชน์สำหรับอาสาสมัคร
คุณทวดผู้นี้ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเมื่อครั้งยังเด็ก เธอเล่าว่าเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมตอนที่สงครามโลกครั้งที่สองเริ่มขึ้น พอเข้าเรียนเป็นปีที่สองภาษาอังกฤษก็กลายเป็นภาษาต้องห้ามเนื่องจากเป็นภาษาของศัตรู และว่าหลานๆ ของเธอช่วยกันโน้มน้าวว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน
คุณทวดทาคามิซาว่าเล่าต่อไปว่า เมื่อเธอได้พูดคุยกับลูกหลานเกี่ยวกับความต้องการเรียนภาษาอังกฤษ หลานๆ ก็บอกว่ามันยังไม่สายเกินไป และจะสอนภาษาอังกฤษให้เธอวันละหนึ่งคำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับเธอมาก
นัตซึโกะ ทาคามิซาว่า หลานสาวและครูสอนภาษาอังกฤษของคุณทวดทาคามิซาว่า คอยส่งคำภาษาอังกฤษใหม่ๆ ไปยังโทรศัพท์ของคุณยายทวดทุกวัน และยังช่วยสอนวลีต่างๆ ที่คุณทวดจำเป็นต้องใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกด้วย เช่นยินดีต้อนรับสู่กรุงโตเกียว นี่คือสนามกีฬาโอลิมปิก หรือมีอะไรให้ช่วยบ้าง?
นัตซึโกะบอกว่าเธอต้องการให้คุณยายของเธอมีความสุข และเห็นได้ชัดว่าภาษาอังกฤษของคุณยายดีขึ้นมาก ทำให้เธอพลอยมีความสุขไปด้วย
EF English Proficiency Index ซึ่งเป็นตัวชี้วัดระดับการพูดภาษาอังกฤษของแต่ละประเทศระบุว่าญี่ปุ่นอยู่ในอันดับที่ 49 ของประเทศที่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแรก แต่สถานการณ์นี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ เนื่องจากคนรุ่นใหม่ต่างต้อนรับภาษาอังกฤษ และนักเรียนญี่ปุ่นมักจะเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่อายุยังน้อยกว่าในสมัยอดีต
อย่างไรก็ตามคุณทวดทาคามิซาว่าเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะไม่เกิดขึ้น เว้นแต่คนญี่ปุ่นจะเปิดกว้างสำหรับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และว่าคนญี่ปุ่นไม่ควรทำตัวเป็นพลเมืองญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ควรทำตัวให้เหมือนเป็น “สมาชิกของโลก” ด้วย