นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู สั่งปลด โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงกลาโหมอิสราเอล หลังมีความเห็นไม่ลงรอยกันมาหลายเดือน และโยกอิสราเอล แคทซ์ รมว. ต่างประเทศ นั่งดำรงตำแหน่งแทน
เนทันยาฮูกล่าวถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “วิกฤติความเชื่อใจ” เกี่ยวข้องกับการสั่งโยกย้ายตำแหน่งครั้งนี้ และแต่งตั้งกีเดียน ซาร์ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแทนตำแหน่งที่ว่างลง อ้างอิงตามแถลงการณ์ที่รายงานโดยรอยเตอร์
กัลแลนต์และเนทันยาฮูที่อยู่ในพรรคลิคุดเหมือนกัน มีปากเสียงและความเห็นที่ไม่ลงรอยมาเป็นเวลาหลายเดือนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของสงครามกาซ่าที่ดำเนินมาแล้ว 13 เดือน ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่าเนทันยาฮูถูกกดดันจากพันธมิตรฝ่ายขวาให้พิจารณาปลดกัลแลนต์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
เนทันยาฮูกล่าวว่ากัลแลนต์ได้มีความเห็นที่ “สวนทางกับการตัดสินใจของรัฐบาลและการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรี” ทางด้านกัลแลนต์โต้ตอบว่า “ความมั่นคงของรัฐอิสราเอลนั้นเป็น และจะเป็นภารกิจแห่งชีวิตของผมเสมอ”
แคทซ์ ที่เป็น รมว.กลาโหมคนใหม่ โพสต์ในแพลตฟอร์ม X ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของรัฐอิสราเอลและพลเมือง
การปลดรัฐมนตรีกลาโหมนำมาซึ่งการประท้วงภายในกรุงเทลอาวีฟ
ยาอีร์ ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านอิสราเอลระบุในช่องทาง X ว่า “ไล่กัลแลนต์ออกท่ามกลางสงครามเป็นการกระทำที่บ้าบิ่น”
โฆษกสภาความมั่นคงแห่งทำเนียบขาวที่กรุงวอชิงตัน ระบุว่ากัลแลนต์เป็นหุ้นส่วนคนสำคัญ และจะเดินหน้าร่วมงานกับแคทซ์ต่อไป
ในวันพุธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศสจะเดินทางไปยังอิสราเอลและดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อกดดันให้อิสราเอลเดินหน้าทางการทูตเพื่อหยุดความขัดแย้งในกาซ่าและเลบานอน
โจมตีทางอากาศถล่มกาซ่าตอนเหนือ
ก่อนมีการปลดกัลแลนต์ กองทัพกรุงเทลอาวีฟออกคำสั่งย้ายถิ่นฐานไปยังประชาชนและโจมตีทางอากาศในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซ่า
ใบปลิวภาษาอารบิกที่โปรยมาจากเครื่องบิน ที่พบในพื้นทื่ดังกล่าว มีใจความว่า “ถึงผู้ที่ยังอยู่ในบ้านและสถานพักพิง พวกท่านกำลังเสี่ยงชีวิต เพื่อความปลอดภัย ท่านต้องเดินทางลงใต้”
การโจมตีได้สังหารประชาชนอย่างน้อย 35 คนแล้วนับตั้งแต่คืนวันจันทร์ อ้างอิงตามสื่อและแพทย์สนามปาเลสไตน์
จอยซ์ เอ็มซูยา รักษาการหัวหน้าฝ่ายบรรเทาทุกข์ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุในแพลตฟอร์ม X ว่า ปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลทางตอนเหนือของกาซ่า ทำให้ประชาชนปาเลสไตน์ “ไม่เหลือปัจจัยสำคัญสำหรับมีชีวิตรอด ขับไล่พวกเขาให้ออกจากพื้นที่ปลอดภัยหลายครั้ง และตัดเส้นทางสำหรับหนีและลำเลียงสิ่งของ”
เธอระบุว่า “ความโหดร้ายทารุณนี้ต้องหยุดลง”
กองทัพอิสราเอลระบุว่าต้องสั่งย้ายประชาชนเพื่อความปลอดภัยจากการสู้รบกับกลุ่มฮามาส
สงครามในกาซ่าครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นหลังฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้วและทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คนรวมทั้งมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ก่อนที่ อิสราเอลจะโจมตีโต้กลับเข้าไปในกาซ่าซึ่งส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์กว่า 43,000 คนเสียชีวิต โดยกว่าครึ่งเป็นเด็กและสตรี ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซ่า ขณะที่ อิสราเอลกล่าวว่า มีนักรบฮามาสหลายพันคนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตนี้
- ที่มา: รอยเตอร์