อิสราเอลส่งกองกำลังสำรองไปฉนวนกาซ่า

  • VOA

ภาพที่เผยแพร่โดยกองทัพอิสราเอลเมื่อ 22 เม.ย. 2024 เผยให้เห็นทหารอิสราเอลปฏิบัติการในฉนวนกาซ่า (AFP PHOTO / Handout / Israeli Army)

กองทัพอิสราเอลเผยในวันพุธว่าได้ส่งกองกำลังสำรอง 2 กองพันไปยังฉนวนกาซ่า นับเป็นท่าทีล่าสุดที่อิสราเอลเตรียมสำหรับการโจมตีภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ ด้านคณะทำงานอิสระด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ระงับการส่งอาวุธให้อิสราเอล โดยอ้างว่าอิสราเอล “มีรูปแบบของอาชญากรรมสงครามที่เป็นระบบ”

กองทัพอิสราเอล ระบุว่ากองกำลังสำรองจะทำปฏิบัติการ “ภารกิจป้องกันและยุทธวิธี” โดยไม่ลงรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการดังกล่าว และกล่าวมาตลอดว่าการบุกเมืองราฟาห์เป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุเป้าหมายในการกำจัดกลุ่มฮามาส

ด้านสหรัฐฯ สหประชาชาติ และนานาประเทศ ต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีภาคพื้นดินของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ โดยมองว่าอาจนำพาหายนะด้านมนุษยธรรมมาสู่เมืองราฟาห์ได้

อีกด้านหนึ่งในวันพุธ กองทัพอิสราเอล ระบุว่า เครื่องบินขับไล่อิสราเอลโจมตี 50 เป้าหมายในกาซ่า ในช่วงไม่กี่วันมานี้ และยังมีการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลลาห์ ทางตอนใต้ของเลบานอน เพื่อตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดหลายครั้งจากฝั่งเฮซบอลลาห์

Your browser doesn’t support HTML5

อิสราเอลส่งกองกำลังสำรองไปฉนวนกาซ่า

ระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามรับรองความช่วยเหลือด้านสงครามต่ออิสราเอล มูลค่า 26,000 ล้านดอลลาร์ ทางคณะกรรมการเฉพาะกิจอิสระ Independent Task Force on the Application of National Security Memorandum-20 (NSM-20) ซึ่งเป็นคณะทำงานอย่างไม่เป็นทางการของบรรดานักวิชาการและอดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกรายงานในวันพุธ เรียกร้องให้สหรัฐฯ ระงับการส่งอาวุธให้อิสราเอล โดยกล่าวหาว่ากองทัพอิสราเอลว่า “มีรูปแบบของอาชญากรรมสงครามที่เป็นระบบ”

รายงานดังกล่าว แสดงความคลางแคลงใจในคำรับรองจากรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เกี่ยวกับการใช้อาวุธอเมริกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ทางไบเดนได้ขอให้อิสราเอลรับรองในบันทึก NSM-20 ดังกล่าวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยคณะกรรมการเฉพาะกิจนี้ตรวจสอบรายงานการโจมตีในกาซ่าหลายพันเหตุการณ์ และพบว่ามีหลายเหตุการณ์ที่ทางกลุ่มสิทธิมนุษยชนไม่พบหลักฐานว่าเป็นพิกัดเป้าหมายการทหาร และไม่มีคำเตือนล่วงหน้าก่อนโจมตีจากทางการอิสราเอล ทางคณะกรรมการจึงสรุปว่ากองทัพอิสราเอลละเมิดกฎหมายมนุษยธรรม รวมทั้งใช้อาวุธของสหรัฐฯ ในการโจมตีอย่างผิดกฎหมาย และการวางข้อจำกัดในความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้คนในกาซ่า

คณะกรรมการเฉพาะกิจอิสระชุดนี้ มีประธานร่วม คือ นูรา เอรากัต อาจารย์ด้านกฎหมายระหว่างประเทศจาก Rutgers University และนักเคลื่อนไหวอเมริกันปาเลสไตน์ และจอช พอล ผู้อำนวยการหน่วยงานด้านการจัดส่งอาวุธของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ลาออกเมื่อเดือนตุลาคม ในการประท้วงสหรัฐฯ “ที่เดินหน้าจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธร้ายแรงให้กับอิสราเอล” ซึ่งทั้งสองออกมาวิจารณ์การก่อสงครามของอิสราเอลและการสนับสนุนอิสราเอลของปธน.ไบเดน

ทางคณะกรรมการส่งรายงานดังกล่าวให้กับคณะทำงานของไบเดน เมื่อ 18 เมษายนก่อนเผยแพร่รายงานออกมาในวันพุธ โดยจอช พอล กล่าวว่า “หลักฐานนั้นชัดเจนว่า ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันกำลังให้การสนับสนุนรูปแบบอาชญากรรมสงครามอย่างเป็นระบบโดยกองทัพอิสราเอล”

ทั้งนี้ ภายใต้บันทึก NSM-20 มุ่งเน้นเรื่องการใช้อาวุธที่สหรัฐฯ จัดส่งให้กับต่างประเทศ ซึ่งไบเดนได้สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายงานต่อคองเกรสภายใน 90 วันว่าอิสราเอลใช้อาวุธที่สหรัฐฯ ส่งมอบให้ตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของสหรัฐฯ หรือไม่ แต่หากพบว่ามีหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการใช้อาวุธดังกล่าว สหรัฐฯ ก็สามารถจัดความช่วยเหลือได้ โดยกระทรวงต่างประเทศมีเวลาจนถึง 8 พฤษภาคมในการรายงานต่อคองเกรสในเรื่องนี้

ซาราห์ แฮร์ริสัน นักวิเคราะห์อาวุโสจาก International Crisis Group ให้ทัศนะกับวีโอเอว่าการระบุว่าอาวุธอเมริกันได้ถูกใช้ตามกฎหมายหรือไม่อาจเป็นเรื่องที่ “ยาก” เนื่องจาก “รัฐบาลอเมริกันไม่ได้ติดตามเส้นทางการใช้อาวุธแบบนั้น” อย่างไรก็ตามก็เสริมว่า มีหลักฐานที่น่าสนใจสำหรับฝ่ายบริหารในการประเมินและเป็น “สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก” ต่อการกระทำของอิสราเอลทั้งก่อนและตั้งแต่ที่รัฐบาลเนทันยาฮูให้คำรับรอง

ทั้งนี้ อิสราเอลเป็นผู้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด คือเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และส่วนใหญ่แล้วเป็นไปในรูปแบบความช่วยเหลือด้านการทหาร

  • มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์