กลุ่มรัฐอิสลาม (Islam State : IS) ออกมาประกาศว่า ตนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนักการทูตอาวุโสของปากีสถานในอัฟกานิสถานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า รัฐบาลตาลิบันอาจจะไม่สามารถรับมือกับภัยคุกคามการก่อการร้ายได้เสียเองแล้ว
รายงานข่าวระบุว่า อูบาอิด-อูร์-เรห์มาน นิซามานิ อุปทูตรักษาการปากีสถานประจำอัฟกานิสถาน กำลังเดินออกกำลังกายที่ภายในรั้วสถานทูตในกรุงคาบูล ขณะที่ มือปืนทำการยิงเข้าใส่จากอาคารที่อยู่ข้าง ๆ โดย นิซามานิ ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่งถูกยิงเข้าที่หน้าอกและขา
ในแถลงการณ์ของกลุ่มรัฐอิสลามที่ออกมาในวันเสาร์ มีการระบุว่า สมาชิก 2 รายของกลุ่มที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกันที่ชื่อ รัฐอิสลามจังหวัดโคราซาน (Islam State Khorasan Province : ISIS-K) พร้อมปืนและอาวุธขนาดกลาง เป็นผู้ทำการลอบสังหาร “ทูตปากีสถานนอกรีตและผู้อารักขา”
รัฐบาลปากีสถานได้ออกมาประณามการลอบยิงครั้งนี้และเรียกร้องให้รัฐบาลตาลิบันนำตัวผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมรวมทั้งยกระดับการรักษาความปลอดภัยให้กับสำนักงานต่าง ๆ ของตนในอัฟกานิสถานด้วย
กระทรวงการต่างประเทศปากีสถานกล่าวในวันอาทิตย์ด้วยว่า ได้มี “การปรึกษาหารืออย่างเป็นอิสระ” กับทางการตาลิบัน เพื่อตรวจสอบรายงานต่าง ๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการลอบสังหารที่ล้มเหลวของ ISIS-K แล้ว
ความกังวลของสหรัฐฯ
การกล่าวอ้างความรับผิดชอบของกลุ่ม IS นี้มีออกมาในวันเดียวกับที่ เอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เตือนว่า กลุ่ม ISIS-K นั้นอยู่ในลำดับต้น ๆ ของรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นภัยต่อสหรัฐฯ แต่ก็ระบุว่า ในเวลานี้ กลุ่มดังกล่าวมุ่งความสนใจไปยังตาลิบันเป็นหลักอยู่
อย่างไรก็ดี เฮนส์ ยอมรับว่า สหรัฐฯ มองว่า รัฐบาลตาลิบันนั้นไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะไปไล่ล่าจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายนี้ อย่างที่สหรัฐฯ ทำมา
รัฐบาลตาลิบันสังหารและจับกุมสมาชิก ISIS-K หลายสิบคนในกรุงคาบูลและจุดอื่น ๆ ทั่วอัฟกานิสถานนับตั้งแต่กลับเข้ามาปกครองประเทศ พร้อมอ้างว่า ตนสามารถจัดการกับภัยคุกคามการก่อการร้ายได้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว แต่ ISIS-K ก็ยังคงเดินหน้าโจมตีด้วยระเบิดในพื้นที่หลายจุดของเมืองหลวงของอัฟกานิสถานในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายร้อยคนแล้ว
ในส่วนของการลอบสังหารนักการทูตปากีสถานนี้ โฆษกตำรวจในกรุงคาบูล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน และยึดอาวุธได้ 2 ชิ้นไม่นานหลังการลอบยิง
- ที่มา: วีโอเอ