อิหร่านกล่าวหาอิสราเอล ว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหาร นายโมห์เซน ฟาครี ซาเดห์ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีบทบาทสำคัญในโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตามรายงานของ Associated Press
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โมฮัมมัด จาวาด ซารีฟ ทวีตข้อความเมื่อวันศุกร์ว่า การสังหารนายฟาครี ซาเดห์ มีข้อบ่งชี้ว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล แต่ทางการอิสราเอลยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ตามรายงานของสื่อรัฐบาลอิหร่าน ระบุว่า นายโมห์เซน ฟาครี ซาเดห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ดูแลโครงการ Amad ของอิหร่าน ถูกโจมตีระหว่างโดยสารรถยนต์โดยปฏิบัติการก่อการร้าย ใกล้กับกรุงเตหะราน
รายงานจากผู้เห็นเหตุการณ์อ้างว่าได้ยินเสียงระเบิดดัง 1 ครั้ง ตามมาด้วยเสียงรัวกระสุน ก่อนที่นายฟาครี ซาเดห์ จะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา และมีรายงานเจ้าหน้าที่อารักขาบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีภาพรายงานรถเก๋งนิสสัน ถูกกระสุนยิงพรุนทั้งคัน
แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ และเหตุการณ์ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นหลังครบรอบ 10 ปี เหตุลอบสังหารนายมาจิด ชาฮริอารี นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ชาวอิหร่าน ซึ่งรัฐบาลเตหะรานอ้างว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
ที่ผ่านมา อิสราเอล ตกเป็นเป้าต้องสงสัย ในเหตุลอบสังหารนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์อิหร่านหลายต่อหลายครั้ง และเมื่อปี 2018 นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เคยฉายภาพสไลด์และกล่าวถึงนายฟาครี ซาเดห์ ครั้งหนึ่งระหว่างการแถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดยบอกว่า “โปรดจำชื่อนี้เอาไว้”
เหตุลอบสังหารนักวิทย์ฯอิหร่านครั้งนี้ จุดชนวนความตึงเครียดในตะวันออกกลางขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อปีก่อน สหรัฐฯกันอิหร่าน หวิดเผชิญหน้ารุนแรงจนเกือบจะเกิดสงคราม และเป็นเหตุรุนแรงก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า และอาจเป็นโจทย์ใหญ่ในการรับมือกับอิหร่านของไบเดนด้วย