ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ออกมายอมรับในวันพฤหัสบดีว่า ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในความพยายามที่จะหาทางยุติเหตุการณ์ความรุนแรงต่าง ๆ ในเมียนมา
ปธน.วิโดโด ทำการประเมินสถานการณ์ในเมียนมา ในวันสุดท้ายของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันในเมืองลาบวน บาโจ บนเกาะทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย
เกิดความไม่สงบและเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมากมายต่อเนื่องในเมียนมานับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนาง ออง ซาน ซู จี ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2021 ที่นำมาซึ่งการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารซึ่งออกมาตอบโต้ด้วยการจัดการปรามปรามอย่างหนัก
ข้อมูลจากกลุ่มสังเกตการณ์อิสระกลุ่มหนึ่งระบุว่า พลเรือนกว่า 3,000 คนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของกองทัพเมียนมาและผู้คนกว่า 18,000 คนถูกจับกุมตัวตั้งแต่หลังรัฐประหารเป็นต้นมา
นอกจากนั้น เหตุการณ์ความไม่สงบในเมียนมายังขยายวงไปเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพและกลุ่มกบฏที่เป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ห่างไกลทั้งหลายที่พยายามต่อสู้ให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองตนเองเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว
ปธน.อินโดนีเซียได้เรียกร้องให้สมาชิกอีก 8 ประเทศของอาเซียนหันมาสามัคคีกันเพื่อจัดการกับปัญหาของเมียนมา แต่กฎบัตรของกลุ่มที่มีหลักการว่าด้วยการต้องมีฉันทามติก่อนจะดำเนินการใด ๆ และการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกกลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ความพยายามแก้ไขสถานการณ์ในเมียนมาเป็นไปได้ยาก แม้จะมีการเสนอแผนสันติภาพ 5 ข้อให้รัฐบาลทหารยอมตกลงแล้ว แต่จวบจนบัดนี้ ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตามแผนที่ว่า
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี