นักเรียนมัธยมศึกษาชาวอินโดนีเซียในกรุงจาร์กาตารวมตัวเดินขบวนประท้วงด้านนอกบริเวณสถานที่จัดงานนิทรรศการแสดงสินค้าบุหรี่โลกแห่งเอเชีย 2010 หรือ World Tobacco Asia 2010 Expo เพื่อเรียกร้องให้ผู้จัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้หยุดโฆษณาบุหรี่และควรละอายใจที่มุ่งขายบุหรี่ให้แก่เยาวชนชาวอินโดนีเซีย
ก่อนหน้านี้สมาคมการค้าซึ่งใช้ชื่อว่า World Tobacco ที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ เลือกประเทศอินโดนีเซียเป็นสถานที่จัดงาน Expo เกี่ยวกับบุหรี่ โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลอินโดนีเซียมีมุมมองในด้านบวกและสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมยาสูบ
แต่บางทีนับต่อจากนี้พวกเขาอาจจะต้องเปลี่ยนใจเมื่อกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียจัดเตรียมร่างกฏหมายที่จะจำกัดการสูบบุหรี่ เช่นการเพิ่มภาษีบุหรี่อีกร้อยละ 5 การห้ามสูบบุหรี่ในอาคารสาธารณะ และการติดป้ายเตือนเกี่ยวกับสุขภาพบนซองบุหรี่
อินโดนีเซียเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่ยังไม่ได้ให้สัตยาบรรณในกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบกับองค์การอนามัยโลกที่กำหนดให้รัฐบาลออกมาตรการต่างๆเพื่อลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ด้วยวิธีการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มราคาบุหรี่ การห้ามขายบุหรี่แก่เยาวชน รวมทั้งลดการโฆษณาบุหรี่ หรือกิจกรรมส่งเสิรมการขายต่างๆ
จากการสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเมื่อปีที่ผ่านมาพบว่ามีชาวอินโดนีเซียสูบบุหรี่มากถึง 63 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขของเยาวชนที่สูบบหรี่ก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กๆและเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี จะมีอัตราการสูบบุหรี่ถึงร้อยละ 25 หรือประมาณกาลว่าเด็กอินโดนีเซีย 4 คนจะสูบบุหรี่ 1 คนซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วง จนกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการควบคุมยาสูบแห่งอินโดนีเซียเตรียมการที่จะประกาศห้ามการโฆษณาบุหรี่ที่พบเห็นได้ทั่วไปในอินโดนีเซียเพื่อลดแรงจูงใจการสูบบุหรี่โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน
Mia Hanafiah ผู้อำนวยการบริหารคณะกรรมการควบคุมยาสูบของอินโดนีเซีย กล่าวยืนยันการสนับสนุนการห้ามการโฆษณาบุหรี่ของรัฐบาลอินโดนีเซียที่อาจส่งผลกับเด็กและเยาวชน
แน่นอนว่าแผนการณ์ดังกล่าวทำให้กลุ่มผู้ผลิตบุหรี่ออกมาแสดงความไม่พอใจ
Agung Suriyanto รองเลขาธิการใหญ่ของสมาพันธ์ยาสูบแห่งอินโดนีเซีย บอกว่า ในฐานะผู้ผลิตยาสูบพวกเขาเห็นด้วยที่จะห้ามการโฆษณาหรือจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายให้กับเยาชน ตามเงื่อนไขของกฏหมายด้านสุขภาพที่ประกาศใช้ก่อนหน้านี้ แต่ขณะเดียวกันการจำหน่ายและการทำตลาดบุหรี่แก่ผู้ใหญ่ก็ควรจะทำได้ในฐานะที่บุหรี่ก็เป็นสินค้าที่ถูกกฏหมายเหมือนสินค้าอื่น
แต่ผู้อำนวยการบริหารคณะกรรมการควบคุมการยาสูบออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้โดยให้เหตุผลว่าแม้โฆษณาบุหรี่จะระบุว่าเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มผู้ใหญ่ แต่เห็นได้ชัดว่ากลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงกลับเป็นเยาวชนเพราะในโฆษณามักจะใช้ดารานักดนตรีร๊อคขวัญใจวัยรุ่น รวมทั้งนักกีฬา มาเป็นจุดขายดึงดูดให้กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหม่ๆสูบบุหรี่ตามอย่าง นอกจากนี้สินค้าบุหรี่ยังเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬา การแสดงคอนเสริ์ต ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ดึงดูดกลุ่มเยาวชน
อย่างไรก็การประกาศห้ามโฆษณาสินค้าบุหรี่ในขั้นแรกจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐมนตรีอีกหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียจะเป็นผู้ลงนาม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียคาดว่ากฏหมายดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติในช่วงปลายปีนี้และพร้อมประกาศใช้ภายในปี 2011