ในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอินเดียย่ำแย่อยู่นี้ ประชากรวัยหนุ่มสาวของประเทศเชื่อว่า ตนไม่น่าจะมีอนาคตที่ดีหากต้องอยู่ในบ้านเกิดต่อไป จึงเร่งหาทางไปศึกษาต่อในต่างประเทศกันมากมาย ด้วยแรงสนับสนุนจากครอบครัวของตนด้วย
นักศึกษาชาวอินเดียเดินทางไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย เป็นเวลาหลายปีแล้ว
และขณะที่อินเดียกำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอยู่ในเวลานี้ นักเรียนที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย หรือมาจากชนบท กำลังหาทางไปเรียนต่อต่างประเทศกันมากขึ้น โดยทางครอบครัวได้พยายามรวบรวมเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อให้บุตรหลานของตนได้สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
ซาชิน นักเรียนอายุ 19 ปี ได้พูดคุยกับรอยเตอร์เกี่ยวกับอนาคตของเขาว่า ความฝันของเขาคือ การไปตั้งรกรากในต่างแดนเพราะเขามองไม่เห็นอนาคตของตัวเองในอินเดียเลย
คุณพ่อของซาชินถอนเงินทั้งหมดออกจากธนาคารและกู้เงินเพิ่มเพื่อให้ลูกชายของเขาไปยื่นขอวีซ่านักเรียนเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในแคนาดา และสามารถรวบรวมเงินจำนวนกว่า 25,000 ดอลลาร์เพื่อจ่ายให้กับ Western Overseas ซึ่งเป็นเอเจนซี่ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนภาษาอังกฤษและขอวีซ่าไปศึกษาต่อต่างประเทศ
ซาชินวางแผนที่จะไปเรียนหลักสูตรธุรกิจเป็นเวลาสองปีที่แคนาดา โดยหวังว่า เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วปริญญาในสาขาธุรกิจจะช่วยให้เขาได้งานทำและได้วีซ่าสำหรับทำงานในแคนาดาด้วย
ซาชินกล่าวว่า แคนาดามีข้อจำกัดน้อยกว่าสำหรับนักเรียนที่อยู่ทำงานต่อหลังจากจบหลักสูตรการศึกษาแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯ และอังกฤษ นอกจากนั้น เขาคิดว่า ความเสี่ยงทางการเงินนั้นคุ้มค่า และตัวเขาเองมีเพื่อนสองคนในแคนาดาที่ทำงานพร้อม ๆ กับเรียนหนังสือไปด้วย โดยพวกเขามีรายได้จากการทำงานนอกเวลาประมาณเดือนละ 900 ดอลลาร์
หน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐและธุรกิจด้านการศึกษาได้ติดตามดูจำนวนนักศึกษาต่างชาติในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยระบุว่า มีนักเรียนอินเดียประมาณหนึ่งล้านคนที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศในช่วงแรกของปี 2022
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งมีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศถึงสองเท่า และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
เหตุผลหนึ่งของเรื่องนี้ก็คือ การที่มีข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่ระหว่างอินเดียและออสเตรเลีย ซึ่งก็หมายความว่า นักศึกษาชาวอินเดียจะเดินทางไปเรียนที่เมืองต่าง ๆ เช่น นครซิดนีย์ ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเชื่อว่า มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ให้ความสนใจนักเรียนอินเดียมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้การเดินทางสำหรับนักเรียนจีนนั้นเป็นเรื่องยาก เนื่องจากจีนยังคงบังคับใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ภายใต้นโยบายโควิดเป็นศูนย์อยู่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เส้นทางสู่ความสำเร็จในประเทศอื่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ปัญหาแรกคือ หลาย ๆ ประเทศมีปัญหาในการออกวีซ่านักเรียน เนื่องจากสำนักงานวีซ่าหลายแห่งลดชั่วโมงการทำงานหรือระงับการสัมภาษณ์วีซ่านักเรียนในช่วงแรกของการระบาดใหญ่เป็นการชั่วคราว
นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนก็สูงมาก โดย นิติกา มิสชรา นักเรียนสาขาวิชาการกระจายเสียง ในเมืองลอนดอน มณฑลออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา กล่าวว่า นักเรียนต่างชาติต้องจ่ายค่าเล่าเรียนมากกว่านักศึกษาแคนาดาถึงสามเท่าซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินอินเดีย และมูลค่าของเงินรูปีของอินเดียก็ลดลงถึง 7% ในปีนี้
ทั้งนี้ ชาวอินเดียจำนวนมากมองว่า การเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น และมองว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ซึ่งต่างจากในอดีตที่การเข้าเกณฑ์ทหารดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ดี จนเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่อินเดียเพิ่งจะลดค่าจ้างและความมั่นคงในการทำงานให้กับกองทัพ ด้วยการยกเลิกสัญญาว่าจ้างทหารตลอดชีพ และการลดผลประโยชน์ที่เสนอให้กับสมาชิกของกองทัพ
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้เกิดการประท้วงเมื่อต้นปีนี้ และทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนมากคิดทบทวนแผนการหางานทำของตนอีกครั้ง
วีเจย์ ชอฮาน เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ซึ่งเคยคิดที่จะเข้าร่วมกองทัพและเคยไปสอบเข้ากองทัพมาแล้ว กล่าวว่า ตอนนี้ เขามองไม่เห็นแรงจูงใจที่จะเข้าร่วมกองทัพเลย และว่า เขากำลังเรียนภาษาอังกฤษที่ Western Overseas เพราะมองไม่เห็นอนาคตของตนที่จะอยู่ในอินเดียต่อไป ทั้งยังบอกด้วยว่า เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากออกไปจากประเทศอินเดียเท่านั้น
- ที่มา: รอยเตอร์