นักท่องเที่ยวแห่ชมสลัมธาราวี หนึ่งในสลัมใหญ่ที่สุดในโลกและศูนย์กลางผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของอินเดียปีละ $650 ล้าน

ชาวสลัมอินเดียหลายล้านคนแออัดยัดเยียดอยู่ในพื้นที่ขนาดไม่เกิน 3 ตารางกม.ภายในสลัมธาราวีซึ่งถือเป็นสลัมที่แออัดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก คุณ Niyamath Khan วัย 70 ปีทบทวนความทรงจำว่าเมื่อ 50 ปีก่อนสลัมธาราวีแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆเท่านั้น แถวนี้ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า แต่เวลานี้ผู้คนย้ายมาอาศัยอยู่เต็มไปหมด

บริษัท Reality Tours and Travel เกิดแนวคิดนำผู้คนจากภายนอกซึ่งอาจเป็นชาวอินเดียเองหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินชมสลัมธาราวีเพื่อสัมผัสวีถีชีวิตของผู้คนของสลัมแออัดแห่งนี้ คุณ Stephanie Hays ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทนำเที่ยวแห่งนี้บอกว่า นักท่องเที่ยวต่างแปลกใจกับสภาพความเป็นอยู่ภายในสลัม

คุณ Stephanie Hays บอกว่าผู้เยี่ยมชมต่างตะลึงกับสิ่งที่เห็น เพราะภายในสลัมแห่งนี้มีทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน ร้านค้า แม้กระทั่งโรงงานขนาดเล็กซึ่งผลิตสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังมีถนนใหญ่ตัดผ่านกลางสลัม
และเนื่องจากสลัมธาราวีมีโครงสร้างสาธารณูปโภคที่จำเป็นแทบทุกอย่าง ทำให้สลัมแห่งนี้กลายเป็นเมืองย่อมๆภายในมหานครมุมไบซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของอินเดีย มีโรงงานขนาด 1 ห้องอยู่มากกว่า 10,000 แห่งผลิตสินค้าตั้งแต่ของที่ระลึกชิ้นเล็กๆไปจนถึงการผลิตพลาสติกรีไซเคิ่ล

นักวิเคราะห์เชื่อว่าผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่ออกมาจากสลัมแห่งนี้มีมูลค่าสูงกว่า 650 ล้านดอลล่าร์ต่อปี ซึ่งมีทั้งสินค้าที่ขายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ ผู้บริหารบริษัท Reality Tours and Travel บอกว่าโรงงานอุตสาหกรรมขนาดย่อมเหล่านี้ทำให้สลัมธาราวีแห่งนี้แตกต่างจากสลัมอื่นๆในโลก และทำให้มีผู้ต้องการเยี่ยมชมภายในสลัมแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย เฉพาะเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวอินเดีย จ่ายเงินเพื่อเข้าชมสลัมธาราวีราว 10,000 คน

คุณ Kiran Jadhav หนึ่งในนักท่องเที่ยวชาวเมืองมุมไบบอกว่า เมื่อก่อนตนคิดว่าสลัมธาราวีคือชุมชนคนยากจนที่ไม่สามารถไปอยู่ที่อื่นๆได้ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าภายในสลัมแห่งนี้จะมีการผลิตทางอุตสาหกรรมมากมายเช่นนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจนครมุมไบและของอินเดีย ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ตนแปลกใจ

ทางบริษัท Reality Tours and Travel บอกว่ากำไรของบริษัท 80% จะกลับคืนสู่สลัมธาราวีเพื่อให้นำไปใช้ส่งเสริมการศึกษาเรียนรู้ของเด็กๆในสลัม และเพื่อรองรับโครงการพัฒนาสลัมธาราวีให้เป็นพื้นที่ชุมชนเมืองที่ทันสมัยยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีจากนี้ แต่ถึงแม้จะมีอาคารร้านค้ารูปแบบใหม่จะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าวิถีชีวิตของผู้คนและวงจรการผลิตภาคอุตสาหกรรมขนาดย่อมภายในสลัมแออัดแห่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไป