เสียงอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับบัดกรีและเชื่อมสายไฟ ที่ห้องฝึกงานเพื่อผลิตแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Solar Cell ในหมู่บ้านทิโลนิยา หมู่บ้านเล็กๆ แถบชนบทของรัฐราชสถาน (Rajastan) ประเทศอินเดีย
เทนซิง ชอนซอม (Tenzing Chonzom) เป็นหนึ่งในนักเรียน 24 คนของหลักสูตรปฏิบัติการนี้ ฝึกเชื่อมสายไฟจากแผงรับพลังงานแสงทิตย์เข้าเครื่องควบคุมพลังงานไฟฟ้าจนทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานได้เป็นผลสำเร็จ
คุณชอนซอม วัย 50 ปี บอกว่า เธอเป็นตัวแทนของชุมชนที่เธออาศัยในแถบเชิงเขาหิมาลัย เพื่อมาเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ และนำความรู้กลับไปใช้ให้เป็นประโยชน์เพราะมีผู้คนจำนวนมากในหมู่บ้านของเธอที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้
หลักสูตรนี้เริ่มต้นมากว่า 25 ปี โดย สันจิต บังเคอร์ รอย (Sanjit Bunker Roy) วิศวกรชาวอินเดีย ที่เปิดให้ความรู้สำหรับชาวบ้านในแถบชนบทของอินเดียซึ่งส่วนใหญ่ไร้การศึกษา จนได้ชื่อว่าเป็น Barefoot College หรือวิทยาลัยเท้าเปล่า สอนด้านวิศวกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยต้นทุนต่ำสำหรับคนยากจนในอินเดีย โดยใช้หลักการลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีลงไปในระดับที่ชาวบ้านสามารถเรียนรู้และจัดการได้ด้วยสิ่งที่พวกเขามีอยู่
วิศวกรชาวอินเดีย ที่เป็นสุดยอดหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลของนิตยสารไทม์ประจำปีนี้ บอกว่า เทคโนโลยีพลังงานแสดงอาทิตย์มีความสำคัญมากสำหรับกลุ่มคนรากหญ้าในอินเดียเพราะส่วนมากยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนการขอความช่วยเหลือจากองค์กรภายนอกก็ล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเขาจึงอยากหันมาพึ่งตัวเองเพื่อสร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นและแก้ปัญหาแบบชาวบ้านด้วยการเริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆในชีวิตประจำวัน จนค้นพบว่าชาวบ้านสามารถจัดการและซ่อมแซมสิ่งของต่างๆด้วยตัวเองได้ด้วยทักษะที่มีอยู่ในตัวเองอย่างน่าทึ่งแม้จะไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนก็ตาม
คุณรอยยกตัวอย่างคุณสีดา เทวี (Sita Devi) คุณแม่ลูกสอง วัย 30 ปีที่มีความรู้เพียงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เคยมาเรียนที่ BareFoot College และช่วยออกแบบและสร้างเครื่องทำอาหารด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์จนเป็นผลสำเร็จ หรือที่เรียกว่า Solar Tracker ที่ผลิตจากโซ่ล้อรถจักรยานเก่าๆ สปริง และก้อนหิน ทำหน้าที่เป็นกลไกขับเคลื่อนจานรับแสดงอาทิตย์ให้ติดตามวงโคจรดวงอาทิตย์ตลอดทั้งวันเพื่อรับความร้อนจากแสงแดดไปปรุงอาหาร
คุณสีดา เทวี เจ้าของผลงานเครื่องปรุงอาหารพลังงานแสงอาทิตย์ บอกว่าเธอใช้วัสดุที่หาได้ง่ายมาใช้ผลิตนี้ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังประหยัดเวลา รักษาสิ่งแวดล้อม ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้แม่บ้านอย่างพวกเธอไม่จำเป็นต้องออกไปหาฟืนมาเป็นเชื้อเพลิงอีกต่อไป
พวกเขายังแต่งเพลงในภาษาฮินดู ที่แปลว่า เพลงแห่งแสงอาทิตย์ หรือ Solar Song ที่คุณเทวี และกลุ่มผู้หญิงแห่ง คณะวิศวกรรมคนเท้าเปล่า ช่วยกันร้องเพื่อบรรยายสรรพคุณเจ้าเครื่องทำอาหารจากพลังงานแสดงอาทิตย์ของพวกเธออีกด้วย
คุณรอย เจ้าของหลักสูตรวิทยาลัยคนเท้าเปล่า บอกในท้ายที่สุดว่า จริงๆแล้วเป้าหมายในหลักสูตรของเขาก็แค่เพียงต้องการเปิดพื้นที่ให้กับผู้หญิงในชนบทได้มีความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น และจนถึงทุกวันนี้กลุ่มวิศวกรเท้าเปล่าของเขาก็สามารถนำกระแสไฟฟ้าให้เข้าถึงหมู่บ้านกว่า 450 แห่งทั่วประเทศอินเดียได้จนเป็นผลสำเร็จแล้ว