เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวในวันศุกร์ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 คน หลังจากที่ทะเลสาบธารน้ำแข็งทะลักแนวตลิ่งและก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในเขตอินเดียน หิมาลายาส์ (Indian Himalayas)
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พยายามหาผู้รอดชีวิต ซึ่งตัวเลขผู้สูญหายอยู่ที่เกือบ 150 คน ตามรายงานของรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่อินเดียเปิดเผยว่า ภัยพิบัติที่ได้ชื่อว่า เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 50 ปีในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เกิดขึ้นหลังทะเลสาบโลนัก (Lhonak) ในรัฐสิกขิม ล้นตลิ่งในวันพุธ หลักจากที่ฝนตกหนัก
น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นกระทบชีวิตของประชาชนราว 22,000 คน
หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดียกล่าวว่า รัฐสิกขิมได้รับปริมาณน้ำฝนถึง 101 มิลลิเมตรในช่วง 5 วันแรกของเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปกติถึงสองเท่าและส่งผลให้ภาวะน้ำท่วมรุนแรงหนักกว่าที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปี 1968 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,000 คน
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงอากาศที่รุนเเรงสุดขั้วบริเวณเทือกเขาหิมาลัยในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าเป็นผลของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ
ในช่วงเช้าวันศุกร์เจ้าหน้าที่รัฐรายหนึ่งที่ชื่อว่า เซเทน บูไท กล่าวว่าความพยายามช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยทำได้อย่างยากลำบากทางตอนเหนือของสิกขิมเพราะเส้นทางเชื่อมต่อถูกตัดขาด
เขากล่าวว่า ประชาชน 2,400 คนได้รับความช่วยเหลือให้ออกจากพื้นที่ได้เเล้ว และมีผู้ที่อยู่ในค่ายพักพิงราว 7,600 คน และในเวลานี้หน่วยงานรัฐและเอกชนปิดตัวลงในบริเวณที่ได้รับผลกระทบไปจนถึงวันที่ 15 ต.ค.
ทั้งนี้ รัฐสิกขิมเป็นรัฐขนาดเล็กของอินเดียที่ถูกห้อมล้อมด้วยเทือกเขาของเนปาล ภูฏาน และจีน รัฐนี้มีประชากร 650,000 คนโดยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ
- ที่มา: รอยเตอร์