Your browser doesn’t support HTML5
พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี คว้าชัยชนะเลือกตั้งอินเดียอีกสมัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก
ผู้สนับสนุนนายโมดี ออกมาเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคักตามท้องถนน ในโอกาสที่ผู้นำของเขาคว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีบัตรลงคะแนนมากกว่า 600 ล้านใบ
นาย โมดี นายกฯ วัย 68 ปี กล่าวว่าเขาจะทำให้อินเดียเป็นประเทศที่ “เข้มแข็งและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน”
จากผลการนับคะแนนล่าสุด คาดกันว่า พรรค ภาราติยะ จานาตะ หรือ บีเจพี (BJP) ของนายโมดีคว้าที่นั่งราว 300 ที่นั่งในรัฐสภา จากทั้งหมด 543 ที่นั่ง
นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปี ที่พรรคการเมืองของอินเดียสามารถคว้าที่นั่งในสภาได้เกินครึ่งติดต่อกันถึงสองสมัย และเมื่อรวมกับพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นแล้ว พรรคบีเจพี ก็จะสามารถคุมเสียงในสภาได้อย่างสบาย
นายโมดีได้คะแนนจากการเลือกตั้งครั้งนี้มากกว่าการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งทำให้ถูกมองว่า นี่เป็นการแสดงการยอมรับในตัวผู้นำของนายโมดี ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ จะมีการคาดการณ์ว่าคะแนนความนิยมของนายโมดีจะลดลง เพราะปัญหาการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ราคาพืชผลตกต่ำ และความยากจนในชนบท
นาย อรุณ คูรณา หนึ่งในผู้สนับสนุนนายโมดี กล่าวว่า “นายโมดีเป็นคนที่ควรจะได้เป็นนายกของอินเดียตราบเท่าที่นายโมดียังมีลมหายใจ ไม่มีใครสามารถล้มนายโมดีได้ นอกเสียจากว่านายโมดีจะอยากเลิกเป็นนายกเอง”
นายโมดีหาเสียงโดยการปลุกเร้าความเป็นชาตินิยมของอินเดีย หลังจากที่เกิดการเผชิญหน้าทางการทหารในระยะเวลาสั้น ๆ ระหว่างอินเดียและปากีสถาน เพื่อนบ้านและศัตรูคนสำคัญ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้ที่สนับสนุนนายโมดีกล่าวว่า ท่าทีที่เข้มแข็งเด็ดขาด ไม่ยอมอ่อนข้อต่อปากีสถาน และนโยบายช่วยเหลือคนยากจนทำให้นายโมดีเป็นตัวเลือกที่ไม่มีใครสู้ได้
แต่ในขณะที่มีคนชื่นชมภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งของโมดี ก็มีคนมองว่า ผู้นำฮินดูที่มีแนวคิดชาตินิยมรุนแรงคนนี้ เป็นคนที่สุมไฟ ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมที่หลากหลายของอินเดียมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระหว่างคนที่นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในอินเดีย และผู้นับถือศาสนาอิสลาม คนกลุ่มน้อยในประเทศที่ต้องเผชิญกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังด้วยน้ำมือของกลุ่มฮินดูหัวรุนแรง
หลังการนับคะแนน นายราหุล คานธี หัวหน้าพรรคคองเกรส (Congress) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ประกาศยอมแพ้และแสดงความยินดีกับนายโมดี แต่นายคานธีกล่าวว่า การต่อสู้ทางความคิดเพื่อกำหนดอนาคตของอินเดียระหว่างพรรค คองเกรส และบีเจพี จะยังคงดำเนินต่อไป แต่วันนี้เขาต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน
ความพ่ายแพ้ของพรรคคองเกรสในครั้งนี้ ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า นี่อาจจะเป็นการยุติบทบาทของนาย ราหุล คานธี ในฐานะผู้นำพรรค นายคานธีเป็นทายาทรุ่นที่ 6 ของตระกูลเนรู-คานธี ซึ่งเป็นตระกูลที่มีบทบาทสำคัญในการเมืองอินเดีย ตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเป็นต้นมา