รัฐบาลอินเดียเสนอร่างกฎหมายเพิ่มอายุขั้นต่ำของผู้หญิงที่สามารถสมรสได้ จากเดิม 18 ปีเป็น 21 ปี ซึ่งจะเท่ากับอายุขั้นต่ำของผู้ชาย โดยทางรัฐบาลระบุว่ากฎหมายดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนผู้หญิงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีกลับระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ช่วยแก้ปัญหาที่ฝังลึกในสังคมอินเดียได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีหลายล้านคนในอินเดียต้องเข้าสู่การแต่งงาน
ร่างกฎหมายห้ามการสมรสในวัยเยาว์ฉบับนี้ถูกเสนอเข้าสภาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีหลังจากที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เคยประกาศในวันชาติอินเดียว่า รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาเพิ่มอายุขั้นต่ำของหญิงที่เข้ารับการสมรสได้
รัฐบาลอินเดียระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ตั้งเป้ามอบโอกาสที่เท่าเทียมให้ผู้หญิงโดยยืดช่วงเวลาสมรสออกไปเพื่อให้หญิงเหล่านี้เข้ารับการศึกษา การจ้างงาน มีร่างกายที่เติบโตสมบูรณ์ก่อนแต่งงาน และเพื่อรับรองความเสมอภาคทางเพศ
ร่างกฎหมายนี้จะนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ผู้หญิงในอินเดีย โดยการประมาณการจากหลายสำนักระบุว่า หญิงชาวอินเดียราว 50 เปอร์เซ็นต์แต่งงานก่อนอายุ 21 ปี
กลุ่มสิทธิสตรีหลายกลุ่มสนับสนุนกฎหมายนี้ เช่น รันจนา กุมาริ ผู้อำนวยการศูนย์ Center for Social Research ในกรุงนิวเดลี บอกกับวีโอเอว่า การที่ผู้หญิงสามารถเรียนจบและมีงานทำจะช่วยรับประกันได้ว่า พวกเธอจะมีชีวิตที่ดีกว่าการต้องพึ่งพาสามีไปตลอดชีวิต และเธอต้องการให้ทั้งหญิงและชายมีอายุขั้นต่ำที่สามารถสมรสได้เท่าเทียมกัน
รัฐบาลอินเดียระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวยังมีที่มาจากความกังวลต่อสุขภาพของผู้หญิงที่เป็นแม่คนตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเชื่อมโยงกับอัตราการเสียชีวิตของทารกที่สูงและช่วงอายุขัยที่สั้นลง โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาศัยในชนบท
สมริติ อิรานิ รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาสตรีและเด็ก ยังระบุด้วยว่า การเพิ่มอายุขั้นต่ำของหญิงที่สามารถแต่งงานได้จะช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นได้มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนกลับเตือนว่า ร่างกฎหมายนี้อาจส่งผลตรงกันข้ามเนื่องจากไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริงของการแต่งงานในวัยเยาว์ เช่น ความยากจน ทัศนคติแบบชายเป็นใหญ่ และการเข้าไม่ถึงการศึกษา ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้กังวลว่า หากต้นตอของปัญหาเหล่านี้ไม่ถูกแก้ไข การปรับอายุของผู้สมรสอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้ขณะนี้การสมรสเด็กหญิงที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจะผิดกฎหมาย แต่การสมรสในเด็กยังคงเป็นปัญหาหลักของอินเดีย โดยผลการสำรวจสุขภาพครอบครัวทั่วประเทศเมื่อปีค.ศ. 2019 – 2021 ระบุว่า หนึ่งในสี่ของผู้หญิงอายุ 20-24 ปี แต่งงานก่อนจะมีอายุครบ 18 ปี
แมรี จอห์น ศาสตราจารย์ประจำศูนย์วิจัย Center for Women’s Development Studies ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้มีเจตนาที่ดีแต่ผ่านกระบวนการคิดมาน้อยเกินไป โดยเธอระบุว่า ปัญหาหลายอย่างที่รัฐบาลต้องการแก้ไข เช่น อัตราการเสียชีวิตของมารดา จะไม่ถูกแก้ไขเพียงเพราะการเพิ่มอายุขั้นต่ำของสตรีที่สามารถสมรสได้ เพราะปัญหาสุขภาพของมารดาจะไม่ถูกแก้ไขจากการเพิ่มอายุการสมรส แต่จะต้องแก้ด้วยการให้พวกเธอได้รับสารอาหารและมีสุขภาพที่ดีขึ้น
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีบางส่วนยังเห็นว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ได้ช่วยสนับสนุนสตรีอย่างแท้จริง และเป็นเพียงการกระทำเชิงพิธีกรรมเท่านั้น พวกเธอระบุว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการเข้าถึงสถานศึกษาโดยเฉพาะในแถบชนบทของประเทศ การเข้าถึงอาหารที่มีประโยชน์และสาธารณสุขที่ดีขึ้น และรับรองความปลอดภัยในชีวิตของสตรี
นอกจากนี้ ยังมีผู้วิจารณ์บางส่วนระบุว่า หากหญิงอายุ 18 ปีสามารถเลือกตั้งได้หรือต้องรับโทษแบบผู้ใหญ่หากก่ออาชญากรรม พวกเธอก็ควรได้รับอนุญาตให้สมรสในช่วงอายุดังกล่าวได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายนี้ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ควรถูกมองว่าเป็นปัญหาแต่ควรเป็นโอกาสมากกว่า โดยกุมาริจากศูนย์ Center for Social Research ระบุว่า รัฐบาลดำเนินการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้เด็กหญิงได้รับการศึกษาจนครบหลักสูตร และสนับสนุนให้เด็กหญิงทุกคนได้รับสิทธิเข้าถึงอนามัยการเจริญพันธุ์เช่นกัน
กุมาริเห็นด้วยว่า ทั้งรัฐบาล พรรคการเมือง หรือภาคประชาสงคม จะต้องทำให้สังคมมีค่านิยมและวัฒนธรรมที่ยอมรับการเพิ่มอายุที่ผู้หญิงสมรสได้อย่างแท้จริง
ผู้หญิงวัยรุ่นหลายร้อยคนในรัฐหรยาณา ทางตอนเหนือของอินเดีย สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว โดยพวกเธอรณรงค์ให้มีการเพิ่มอายุผู้หญิงที่สมรสได้ เช่นปราชิ ชัวฮาน หนึ่งในนักรณรงค์วัย 17 ปี ที่เห็นว่า กฎหมายนี้จะช่วยลดความกดดันจากพ่อแม่และสังคมต่อเด็กหญิงที่ต้องแต่งงานไม่นานหลังอายุครบ 18 ปีได้