คนไทยในสหรัฐคิดอย่างไร กับการประกาศใช้กฎหมายปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองของประธานาธิบดี บารัค โอบามา?

March for Immigration Reform, Washington 2014

March for Immigration Reform, Washington 2014

Your browser doesn’t support HTML5

Immigration Reform Thai Reacts

หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศใช้คำสั่งฝ่ายบริหาร หรือ Executive Order เพื่อเดินหน้ากฎหมายปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสตอบรับอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะชุมชนไทยทั่วสหรัฐอเมริกาซึ่งมีคนไทยจำนวนมากเข้าข่ายได้รับสิทธิประโยชน์จากกฎหมายฉบับดังกล่าว คุณพินิจการณ์ ตุลาชม จะพาไปเปิดใจและมุมมองคนไทยใอเมริกาที่อยู่ในข่ายได้รับสิทธิถูกต้องตามกฎหมายเป็นครั้งแรกและอาศัยอเมริกาได้ต่อไป

มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่อาศัยในอเมริกาอย่างผิดกฎหมายแต่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการยกเว้นและอาศัยในอเมริกาต่อไปได้ หลังการประกาศใช้กฎหมาย ปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐ ซึ่งผู้จะได้รับสิทธิดังกล่าวจะต้องผ่านเงื่อนไข คือการอยู่ในอเมริกามาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับจากวันประกาศ / มีทายาทเป็นพลเมืองสหรัฐหรืออยู่อาศัยถาวรถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีประวัติอาชญากรรม
ชาวไทยในรัฐแถบตะวันออกของสหรัฐแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับวีโอเอ ภาคภาษาไทยถึงโอกาสที่เขารอคอยเพื่อที่จะก้าวออกมาจากมุมมืด หลังจากอาศัยในอเมริกาอย่างผิดกฎหมายมานับสิบปี

เช่นเดียวกับคนไทยที่เป็นหัวหน้าครอบครัวอีกคนที่เดินทางมาศึกษาต่อในอเมริกาเมื่อ 7-8 ปี ก่อน และเสี่ยงตัดสินใจตั้งรกรากและทำงานในอเมริกา หลังมีครอบครัวและลูกเมื่อหลายปีก่อน

มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยที่เสี่ยงตัดสินใจทำมาหากินและใช้ชีวิตในต่างแดน ด้วยการยอมลำบากจากการถูกจำกัดสิทธิในหลายด้านในฐานะพลเมืองชั้น 2เพราะอาศัยอย่างผิดกฎหมาย แต่ต้องแลกกับการอนาคตของตัวเองและครอบครัว

ส่วนหนึ่งของเจตนารมณ์การประกาศใช้กฎหมายปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองของผู้นำสหรัฐฯนั้น เพื่อต้องการแก้ปัญหาด้านมนุษยธรรมที่จะเปิดทางให้ครอบครัวของผู้อพยพที่มีลูกหลานเป็นพลเมืองสหรัฐให้สามารถอยู่ด้วยกันต่อไปมากกว่าที่จะจบลงที่การส่งกลับประเทศเหมือนเช่นที่ผ่านมา

ทางการสหรัฐคาดว่าจะมีชาวต่างชาติอพยพราว 5 ล้านคนได้ประโยชน์จากการประกาศในครั้งนี้ ซึ่งรวมไปถึงคนไทยที่คาดว่ามีหลายหมื่นคนที่พบกับความหวังเพื่อจะก้าวพ้นจากเงามืด หลุดจากวงจรใต้ดินขึ้นมาหายใจใช้ชีวิตปกติกับครอบครัวได้โดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป