Your browser doesn’t support HTML5
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนในวันพฤหัสบดีว่า ภาวะเงินเฟ้อพุ่งในหลายประเทศ อาจมีปัญหา ‘แก้ไขได้ยาก’ กว่าหลายแห่งในโลก หากกรณีการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานยังเดินหน้าต่อไป หรือ เกิดภาวะเหวี่ยงของการคาดการณ์เงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป (de-anchored inflation expectation) ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
เจอร์รี ไรซ์ โฆษกของ IMF กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีว่า ทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก น่าจะอ่อนตัวลงในปีหน้า แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงขาขึ้นอยู่
ไรซ์ ระบุว่า ระดับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สูงต่อเนื่องอาจทำให้ต้องมีการเร่งรัดการดำเนินนโยบายและโครงการต่างๆ ให้เร็วขึ้นกว่าที่เคยวางแผนไว้ ซึ่งก็จะกลายมาเป็นปัญหาทางระบบสำหรับทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกต่อไปได้
โฆษกของ IMF ยังกล่าวด้วยว่า แม้หลายประเทศนั้นสามารถคงประสิทธิภาพในการยึดเหนี่ยวการคาดการณ์เงินเฟ้อในอยู่ในระดับที่ไม่สูงหรือไม่ต่ำจนเกินไปได้อยู่ แต่หาก “ปัญหาชะงักงันของอุปทาน หรือประสิทธิภาพการยึดเหนี่ยวการคาดการณ์เงินเฟ้อเกิดเหวี่ยงขึ้นมา ภาวะเงินเฟ้อในบางพื้นที่อาจจะรุนแรงจนแก้ไขได้ยากได้”
ไรซ์ เรียกร้องให้ธนาคารกลางทั่วโลกคอยจับตาดูแรงกดดันเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ขณะที่ IMF กำลังวิเคราะห์พิจารณาดูรูปการณ์ต่างๆ ทั้งด้านนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ซึ่งรวมถึง ผลกระทบของการดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวดในประเทศพัฒนาแล้ว ต่อกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย
และขณะที่ IMF ยอมรับว่า ราคาก๊าซธรรมชาติในบางพื้นที่ของโลกนั้นปรับเพิ่มสูงจนถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปแล้ว การคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศมองว่า ราคาพลังงานต่างๆ น่าจะเริ่มอ่อนตัวกลับคืนสู่ระดับปกติในปีหน้า เมื่อความต้องการเริ่มลดลงและอุปทานเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง