กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เตือนสมาชิกกลุ่มประเทศ G20 ว่า ในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่ทีท่าว่าจะคลี่คลายลงนี้ ทุกประเทศควรเพิ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจให้สูงกว่าที่วางไว้ก่อนหน้า
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า คำเตือนของ IMF ที่มีออกมาในรูปแบบของบล็อกในวันจันทร์นั้น ยังชี้ว่า การที่ประเทศสมาชิกเหล่านี้ตัดสินใจยุติการให้ความสนับสนุนทางเศรษฐกิจ ในช่วงที่อัตราการว่างงานยังพุ่งสูงนี้จะ “เป็นการทำร้ายชีวิตความเป็นอยู่ให้ย่ำแย่ลง และอาจส่งผลให้เกิดภาวะล้มละลายอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะเป็นภัยต่อการฟื้นตัวได้”
ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่ม G20 นั้น คือประเทศที่มีขนาดรวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนราว 80 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตเศรษฐกิจโลก และมีประชากรที่คิดรวมกันแล้วมีสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของประชากรโลก
เมื่อเดือนที่แล้ว IMF ออกคาดการณ์ที่ระบุว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวราว 4.4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ก่อนจะกลับมาขยายตัวที่ระดับ 5.2 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า แต่เตือนด้วยว่า สถานการณ์โดยรวมยังดูเลวร้าย และรัฐบาลทั้งหลายไม่ควรเลิกแผนกระตุ้นเศรษกิจก่อนเวลาอันควรด้วย
ในบล็อกล่าสุดที่มีชื่อว่า “The Crisis is Not Over, Keep Spending (Wisely)” นี้ IMF กล่าวว่า แรงสนับสนุนผ่านนโยบายการคลังของรัฐบาลต่างๆ เริ่มชะลอลง ขณะที่การระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินต่อเนื่อง ดังนั้น “แรงสนับสนุนที่มากกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในปีหน้า สำหรับเศรษฐกิจของบางประเทศ”
IMF กล่าวด้วยว่า ประเทศทั้งหลายควรเดินหน้าให้ความช่วยเหลือคนจนและกลุ่มที่มีความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสาธารณสุขนี้ในระดับที่หนักหน่วงกว่าคนอื่น รวมทั้งส่งความช่วยเหลือไปยังธุรกิจที่จะช่วยรักษาระดับการจ้างงานให้ทรงตัวได้ โดยระบุชื่อประเทศอาทิ อินเดีย เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และสหรัฐฯ เป็นต้น