Your browser doesn’t support HTML5
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับตัวเลขการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงมาอยู่ที่ะดับ 5.9% ในปีนี้ ลดลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ 6% ซึ่งเป็นผลจากปัญหาที่ห่วงโซ่อุปทานสินค้าโลก และความแตกต่างด้านการฉีดวัคซีนโควิดของประเทศร่ำรวยและยากจน
IMF เปิดเผยรายงาน World Economic Outlook ฉบับล่าสุดในวันอังคาร โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วจะขยายตัวเฉลี่ยที่ระดับ 5.2% ในปีนี้ ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาจะมีอัตราการเติบโตที่ 3%
สำหรับเศรษฐกิจอเมริกา IMF คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 6%ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 7% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อสามเดือนที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงเนื่องจากอัตราการติดเชื้อโคโรนาไวรัสที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ และการชะลอตัวของภาคการผลิตเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
ส่วนเศรษฐกิจจีน IMF คาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 8% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 8.1% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม ส่วนปีหน้าคาดกว่าจะเติบโตที่ระดับ 5.6%
IMF ระบุว่า มูลค่าผลผลิตมวลรวมของประเทศพัฒนาแล้วจะสามารถกลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการระบาดได้ภายในปีหน้า และจะเกินระดับดังกล่าวในปี ค.ศ. 2024 แต่สำหรับประเทศกำลังพัฒนา IMF เตือนว่าอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้นเนื่องจากความแตกต่างของการฉีดวัคซีนระหว่างประเทศรายได้สูงกับประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง
ทั้งนี้ ปัจจุบันเกือบ 60% ของประชากรในประเทศพัฒนาแล้วได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว เทียบกับระดับ 4% ของประเทศกำลังพัฒนา
รายงาน World Economic Outlook จัดทำขึ้นสำหรับการประชุมฤดูใบไม้ร่วงของ IMF และธนาคารโลก ที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยมีรัฐมนตรีการคลังและประธานธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศเข้าร่วม