ขณะที่ ทั่วโลกเฉลิมฉลองวันสตรีสากลซึ่งดำเนินมากว่า 100 ปีอยู่ รายงานจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ประสบปัญหาความยากลำบากทางเศรษฐกิจมากกว่าผู้ชายในช่วงปีที่ผ่านมา
ข้อมูลจากรายงานล่าสุดของ ILO ชี้ว่า สัดส่วนของผู้หญิงที่ต้องว่างงานเพราะการระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้วนั้นอยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้หญิงในตลาดแรงงาน ซึ่งสูงกว่าของผู้ชายที่สัดส่วน 3.9 เปอร์เซ็นต์
หลังจากการเกิดภาวการณ์ระบาดของโควิด-19 ขึ้นมา องค์การสหประชาชาติได้พยายามสร้างความตระหนักในสังคมโลกว่า ความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้หญิงและผู้ชายที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้มีความรุนแรงขึ้นเพียงใดมาตลอด โดย เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเทอเรซ กล่าวว่า “ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศนั้นยกระดับขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่แล้ว และผู้หญิงกลับเป็นผู้ที่ต้องรับผลกระทบหนักจาก การปิดการเรียนการสอนและนโยบายการทำงานจากบ้าน อย่างชัดเจน”
ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ราว 58 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่อยู่ในตลาดแรงงานทั่วโลกนั้น เป็น “แรงงานที่มีลักษณะการว่าจ้างแบบไม่เป็นทางการ” (Informal Employment) ซึ่งหมายถึง งานที่ไม่มีกฎควบคุมและไม่มีการจ่ายภาษีหรือสวัสดิการใดๆ ขณะที่ ผู้หญิงคือกลุ่มที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากวิกฤตนี้ เช่น ธุรกิจบริการต่างๆ และบริการรับดูแลเด็ก เป็นต้น
และในปีนี้ ที่แนวคิดหลักของวันสตรีสากล คือ “จงเลือกที่จะท้าทาย” (Choose to Challenge) นั้น ผู้หญิงจำนวนมากทั่วโลก ยังคงต้องหาทางรับมือกับความท้าทายที่จ่อหน้าอยู่ ซึ่งก็คือ การทำอย่างไรให้ใช้ชีวิตผ่านพ้นช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่นี้ ไปให้ได้ ตราบที่การระบาดของโควิด-19 ยังดำเนินอยู่