กต. สหรัฐฯ เผยแพร่รายงานสิทธิมนุษยชนประจำปี ระบุมีการละเมิดสิทธิทั่วโลก 

Protesters hold signs as they gather during a rally for Uyghur Freedom in New York, March 22, 2021.

เมื่อวันอังคาร กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลกประจำปี ค.ศ.2020 โดยระบุว่า มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกอย่างกว้างขวางเมื่อปีที่แล้ว

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก โดยรัฐบาลบางประเทศใช้โรคระบาดเป็นข้ออ้างเพื่อจำกัดสิทธิประชาชน และปกครองด้วยแนวทางอำนาจนิยมอย่างเข้มข้นขึ้น

Secretary of State Antony Blinken speaks about the release of the '2020 Country Reports on Human Rights Practices,' at the State Department in Washington, Tuesday, March 30, 2021. (Mandel Ngan)


นายแอนโทนี บลิงเคนยังกล่าวด้วยว่า สตรีและเด็กเสี่ยงตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศสภาพและความรุนแรงในครัวเรือนมากขึ้น จากมาตรการปิดเมืองและการขาดความคุ้มครองทางสังคมที่เคยมีในภาวะปกติ นอกจากนี้ กลุ่มคนชายขอบในสังคมอื่นๆ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ยังเผชิญกับ “ภาวะอ่อนแอเป็นพิเศษ” ด้วย

รายงานดังกล่าวได้รับมอบหมายจากรัฐสภาสหรัฐฯ ให้ประเมินสภาพสิทธิมนุษยชนในประเทศที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ไม่ได้วิเคราะห์สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ เอง เช่น เหตุการณ์ประท้วงต่อต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจต่อชนกลุ่มน้อย หรือข้อกล่าวหาของอดีตประธาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มีปัญหา ทำให้เขาแพ้เลือกตั้งต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน

นายบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของประธานาธิบดีไบเดน ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน ให้ความสำคัญต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน และเป็นหัวใจของนโยบายต่างประเทศ และยอมรับว่า สหรัฐฯ ต้องให้ความสำคัญต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนในประเทศด้วยเช่นกัน ในฐานะที่สหรัฐฯ เองก็พยายาม “บรรลุอุดมการณ์และหลักการ” ของตน

สำหรับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในต่างประเทศนั้น บลิงเคนระบุว่า ผู้คนในหลายประเทศยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาสิทธิมนุษยชน เช่น รัฐบาลจีนที่ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวมุสลิอุยกูร์ และก่อ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” เช่น การจำคุก ทรมาน บังคับทำหมัน และลงโทษชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยทางศาสนาและชสติพันธุ์อื่นๆ

รายงานฉบับนี้ระบุว่า จีนเดินหน้าจำคุกพลเมืองด้วยเหตุผลทางการเมืองและศาสนา โดยองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ ประเมินว่า นักโทษทางการเมืองหลายหมื่นคนยังคงถูกจำคุกในเรือนจำและสถานกักกัน โดยรัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเข้าถึงนักโทษการเมืองเหล่านี้ได้

A protester from the Uyghur community living in Turkey, holds an anti-China placard during a protest in Istanbul, March 25, against the visit of China's FM Wang Yi to Turkey.


ทางด้านซีเรียนั้น บลิงเคนระบุว่า การปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ยังคงกดขี่เสรีภาพประชาชนมา 10 ปีแล้ว ส่วนสงครามในเยเมนก็ทำให้ประชาชนหลายล้านคนต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมถึงขึดสุด โดยพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะใช้สิทธิขั้นพื้นฐานหลายประการได้

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุต่อว่า รัฐบาลรัสเซียยังคงมุ่งเป้าต่อผู้เห็นต่างทางการเมืองและผู้ประท้วงโดยสันติ ในขณะที่การทุจริตในวงการราชการยังคงอยู่ ทางด้านนิการากัว รัฐบาลของประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เทกา ก็ผ่านกฎหมายที่จำกัดการทำงานของกลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มประชาสังคม และสื่ออิสระมากขึ้นเรื่อยๆ และนับจนถึงเดือนธันวาคม รัฐบาลนิการากัวยังคงคุมขังนักโทษการเมือง 106 คน โดยมีเก้าคนถูกขังเดี่ยว โดยนักโทษเหล่านี้ถูกคุมขังรวมกับอาชญากรอื่นๆ

รายงานระบุว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนในนิกิรากัวรายงานว่า ทางเรือนจำของนิการากัวยั่วยุให้นักโทษทั่วไปและนักโทษการเมืองทะเลาะกันจนมีการใช้ความรุนแรง มีรายงานหลายฉบับระบุว่า นักโทษการเมืองเหล่านี้ถูกทุบตี คุกคาม ถูกขังเดี่ยวหลายสัปดาห์ และทุกข์ทรมานจากการถ่ายเทอากาศที่ไม่ดี และน้ำและอาหารที่เป็นพิษและปนเปื้อน

FILE - Riot police prepare to disperse protesters during a rally against Nicaraguan President Daniel Ortega's government, inside Metrocentro mall in Managua, Nicaragua, Feb. 25, 2020.


นายบลิงเคนระบุต่อว่า สำหรับสถานการณ์ในคิวบานั้น รัฐบาลยังคงใช้มาตรการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก การเข้าสังคม เสรีภาพด้านศาสนา ความเชื่อ และด้านการเคลื่อนไหว ส่วนในซิมบับเว รัฐบาลใช้ความรนุแรงต่อนักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมและภาคแรงงาน รวมถึงผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนบุคคลรักร่วมเพศและบุคคลข้ามเพศก็ยังคงตกเป็นเป้าของความรุนแรง การกีดกัน และการคุกคามจากการใช้กฎหมายและความเชื่อที่ต่อต้านการร่วมเพศของบุคคลเพศเดียวกัน ทางด้านเติร์กเมนิสถาน ประชาชนที่วิจารณ์รัฐบาลอาจถูกจับด้วยข้อหากบฎ และยังไม่ทราบว่านักโทษการเมืองกว่า 100 คนขณะนี้อยู่ที่ใด

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ สรุปว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ และการละเมิดอื่นๆ สร้างความเสียหายข้ามพรมแดนของประเทศนั้นๆ โดยเขาระบุว่า “การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตามทำให้เกิดความรู้สึกว่า การกระทำผิดโดยไม่ต้องรับผิดชอบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่”