Your browser doesn’t support HTML5
ธนาคาร HSBC ตัดสินใจสั่งให้พนักงานของตนกว่า 1,200 คนในสหราชอาณาจักร ทำงานจากบ้านอย่างถาวรแล้ว หลังดำเนินแผนงานดังกล่าวมาตลอดช่วงการเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า สามารถช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้อย่างมาก
ในรายงานพิเศษของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวันพุธ ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ พนักงานประจำศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือ Call Center ของ HSBC ในอังกฤษ เวลส์ และสก็อตแลนด์ ที่มีอยู่ราว 1,800 คนนั้น อาสาที่จะทำงานจากบ้านตลอดไป ตามข้อมูลของ Unite ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
การตัดสินใจของ HSBC ที่จะอนุญาตให้พนักงานจำนวนมากทำงานจากบ้านได้นี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านระบบบริหารงานที่รุนแรงกว่าที่ธุรกิจคู่แข่งอื่นๆ ทำ หลังหลายแห่งค่อยๆ ผสมผสานการทำงานจากบ้านและทำงานที่สำนักงานมาระยะหนึ่งแล้ว
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยังทำให้ Unite แสดงความกังวลเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของพนักงานที่เกี่ยวข้องในระยะยาว หากนายจ้างไม่ได้ให้การดูแลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ โฆษกของ HSBC กล่าวว่า ทางธนาคารกำลังอยู่ในช่วงการหารือกับพนักงานที่ทำงานที่ Call Center และดูแลลูกค้ารายย่อยในสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับตัวเลือกที่จะทำให้ทุกคนมีความยืดหยุ่นพอในการเลือกสถานที่ทำงาน โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการบริการแก่ลูกค้า
รอยเตอร์ส รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก Unite ว่า HSBC เสนอเงินเพิ่มเติมสัปดาห์ละ 300 ปอนด์ (ประมาณ 414.75 ดอลลาร์) สำหรับผู้ที่เลือกทำงานที่บ้าน เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ เช่น ค่าระบบทำความร้อนและค่าไฟที่จะปรับสูงขึ้นเป็นต้น ขณะที่ ทาง Unite เองกำลังหารือข้อสรุปสำหรับสัญญาว่าจ้างของพนักงาน Call Center ราว 70 เปอร์เซ็นต์ที่เลือกจะทำงานจากบ้านอยู่
สำหรับพนักงานที่ไม่ได้เลือกจะขอทำงานจากบ้านเป็นการถาวรนั้น รายงานข่าวระบุว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ต้องการจะทำงานจากบ้านเป็นบางวันเท่านั้น ส่วนอีก 5 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่า ต้องการจะกลับไปทำงานที่ที่ทำงานมากกว่า