สำหรับกองทัพยูเครนที่ต้องรับมือกับการรุกรานของรัสเซียในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ปืนใหญ่ที่สามารถขับเคลื่อนหรือเปลี่ยนตำแหน่งได้ด้วยตัวเอง หรือที่เรียกกันว่าปืนใหญ่อัตตาจรรุ่นฮาววิตเซอร์ คือหนึ่งในอาวุธยุทธภัณฑ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เจ้าหน้าที่จากกองพันทหารยานเกราะส่วนแยกที่ 24 ที่ใช้นามเรียกขานว่า เคนท์ เป็นทหารอาชีพจากเมืองดนิโปรที่บังคับบัญชากำลังพลที่ใช้งานปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์ ‘พาลาดิน’ ขนาด 155 ม.ม.
ทั้งนี้ วีโอเอไม่ใช้ชื่อจริงของเขา ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย
เคนท์กล่าวกับวีโอเอว่า กองพันของเขาใช้งานพาลาดินมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2023
เคนท์กล่าวว่า “ถ้าคุณเทียบกันระหว่างระบบนี้กับของโซเวียต (จะพบว่า) มีความต่างอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น พิสัยการยิงของฮาววิตเซอร์ของโซเวียตอยู่ที่ประมาณ 17 กิโลเมตร แต่ของพาลาดินจะอยู่ที่อย่างน้อย 28 (กิโลเมตร) และถ้าเราใช้กระสุนแบบ Excalibur จะอยู่ที่ 40 กิโลเมตร”
Your browser doesn’t support HTML5
ปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์รุ่นพาลาดิน ถูกใช้ในการกำจัดอาวุธหนักจำพวกที่จะเป็นอันตรายต่อทหารราบของยูเครนที่สุด เช่น รถถัง
บอห์ดาน ชาวเมืองลวีฟ อดีตแรงงานก่อสร้างในเอสโตเนียที่ผันตัวมาเป็นทหารเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดหลังสงครามเริ่มต้น เล่าว่า ระบบดิจิทัลของพาลาดินเพิ่มประสิทธิภาพของการยิงแต่ละครั้ง และตัวเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ในการเรียนรู้การใช้งานจนชำนาญ
บอห์ดาน ที่สังกัดกองพันของเคนท์ กล่าวว่า “เกราะนี่มีความแข็งแรงกว่าฮาววิตเซอร์รุ่นอะคาเซียที่ผมเคยใช้งานตอนแรกของการรุกราน และมันก็ใช้งานได้ง่ายกว่าเพราะว่าเรายกตัวกระบอกปืนด้วยคันบังคับ”
ส่วน โรมัน ชาวยูเครนที่ทำงานในโปแลนด์ กลับประเทศมาสู้รบกับรัสเซียเพื่อปกป้องประเทศและอนาคตของลูกสองคน โดยโรมันกล่าวว่า “ผมรักประเทศของผม และผมมีลูก และผมไม่อยากส่งต่อสงครามไปให้พวกเขา พวกเขาทุกข์ทนมากพอแล้ว”
ภายใต้ข้อตกลงระหว่างยูเครนและเยอรมนี ปืนใหญ่ฮาววิตเซอร์จำนวน 18 กระบอก จะถูกจัดส่งในปี 2026 และ 2027 แม้ว่าจะไม่มีใครในสนามรบตรงนั้นต้องการให้สงครามดำเนินไปถึงเวลานั้น
ที่มา: วีโอเอ