Your browser doesn’t support HTML5
CNN มีรายงานว่าความกังวลในเรื่องโคโรนาไวรัส การเว้นระยะห่างทางสังคม การปิดสถานออกกำลังกาย และการกักบริเวณตัวเองอยู่ในบ้าน อาจทำให้ผู้คนอยากเอาแต่นอนขดตัวอยู่บนโซฟาและดูโทรทัศน์ หรือนอนอ่านหนังสือนิยายทั้งวัน
แต่การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่ม (ซึ่งอาจทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง) ช่วยให้อารมณ์ดี และช่วยให้มีสุขภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกในขณะนี้
อย่างไรก็ดี ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยการเพิ่มการออกกำลังกายเข้าไปในตารางเวลาชีวิตประจำวัน
ในแต่ละวันควรตั้งเป้าหมายการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ หรือการออกกำลังกายเพื่อประสิทธิภาพร่างกายและหัวใจอย่างน้อย 30 นาทีรวมถึงการฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และสร้างมวลกระดูกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะถ้าหากเป็นโรคเบาหวานหรือมีอาการเริ่มต้นของการเป็นโรคเบาหวาน เพราะร่างกายของคนส่วนใหญ่อาจเผาผลาญแคลอรี่น้อยกว่าปกติ เนื่องจากกิจวัตรประจำวันที่ทำได้มีอยู่เพียงจำกัด
การพยายามไม่นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ เป็นเรื่องที่สำคัญ การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่าพฤติกรรมการนั่งอยู่กับที่ แม้จะนานขึ้นเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในเพศชายลดลง และการศึกษาขนาดใหญ่ฉบับหนึ่งพบว่าพฤติกรรมการนั่งอยู่กับที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป การออกกำลังกายหนักหน่วงมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อายุเกิน 65 ปีซึ่งร่างกายไม่ได้แข็งแรงอยู่ก่อน หรือเริ่มมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว อาจเป็นการไปยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันชั่วคราว ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงเวลาที่มีการระบาดใหญ่ครั้งนี้
นอกจากนี้การออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมถึงการวิ่ง ขี่จักรยาน เดินป่าและเดินออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด ซึ่งอาจช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้อารมณ์ดีได้ แต่ต้องไม่ลืมที่จะเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย
แม้ว่าจะไม่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้าน แต่ยังมีอะไรอีกมากมายที่สามารถทำได้เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีชีวิตชีวาและมีสติในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ ทั้งบริการสตรีมมิ่งออนไลน์ อินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่นในมือถือ ล้วนเสนอวิธีการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ในบ้านมากมาย ทั้งที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และแบบราคาไม่แพง ทั้งแบบที่ใช้อุปกรณ์เล็กน้อย และแบบที่ไม่อาศัยอุปกรณ์ใดๆ เลย
Ellen Barrett ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะ แนะนำให้สร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายสำหรับการออกกำลังกายในบ้าน อย่างตัวเธอเองจะมีเสื่อโยคะปูอยู่ในมุมสงบของห้องนั่งเล่นที่อยู่นอกห้องนอน ซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ เธอสามารถนั่งสมาธิหรือยืดเส้นยืดสายแบบเบาๆ หรือออกกำลังกายเท้าเปล่าแบบเข้มข้นได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายไม่ได้มีความสำคัญต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตเท่านั้น แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายนั้นช่วยเพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพของการเรียนรู้ด้วย นอกจากนี้การออกกำลังร่วมกับผู้อื่นยังช่วยให้สนุกสนาน ดังนั้นอย่าลืมที่จะชวนลูกๆ มาออกกำลังกายด้วยกัน