กองกำลังรัสเซียได้ทำลายหรือสร้างความเสียหายให้แก่โรงเรียนหลายพันแห่งตั้งแต่เริ่มบุกยูเครน แต่ผลเสียต่อระบบการศึกษาของประเทศนั้นมีมากกว่าการที่อาคารเรียนได้รับความเสียหาย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผลกระทบจากสงครามครั้งนี้ต่อการเรียนการสอนในยูเครนมีความรุนแรงหนักในทุกด้าน แม้แต่กับผู้ที่ลี้ภัยออกไปจากประเทศแล้ว
ตัวอย่างของความเสียหายที่ว่านี้ คือ มิลานา มิเนนโก (Milana Minenko) หนูนน้อยวัยเก้าขวบซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในโปแลนด์ หลังหนีจากสงครามในยูเครนพร้อมกับแม่ของเธอในเดือนมีนาคม ปี 2022 เมื่อขีปนาวุธของรัสเซียได้โจมตีบ้านของเธอในวันที่สองของสงคราม ขณะที่ โรงเรียนของเธอก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ มิลานาเข้าเรียนที่โรงเรียนรัฐบาลในโปแลนด์ และในตอนเย็น แม่ของเธอต้องคอยช่วยให้เธอเรียนหนังสือให้ทันกับการเรียนการสอนที่บ้านเกิดของเธอ ทำให้ทั้งคู่ไม่มีเวลาและไม่มีเงินสำหรับเรื่องอื่นใดเลย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยว่า กองกำลังรัสเซียได้ทำลายอาคารเรียน 262 หลัง และสร้างความเสียหายแก่อาคารเรียนอีก 3,019 หลัง แต่สำหรับผู้ที่ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ การเรียนหนังสือก็ประสบปัญหาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยบรรดาครอบครัวทั้งหลาย นักการศึกษาและผู้เชี่ยวชาญต่างกล่าวว่า สำหรับผู้ลี้ภัยแล้ว ผลกระทบของสงครามและการย้ายที่อยู่ใหม่ทำให้การเรียนหนังสือในประเทศใหม่ยากขึ้นไปอีก
เจ้าหน้าที่ในยูเครนกล่าวว่า พวกเขาได้พยายามที่จะผลักดันให้การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในประเทศ เพราะชาวยูเครนรุ่นใหม่จะต้องได้รับการศึกษาที่ดีเพื่อที่จะช่วยสร้างประเทศขึ้นใหม่ภายหลังสงคราม
นอกจากบริบทของการศึกษาแล้ว เรื่องที่น่าเศร้าจากสงครามที่ดำเนินมากว่าปีนี้ก็คือการ การที่มีเด็กอย่างน้อย 500 คนต้องเสียชีวิตในสงครามและอีกหลายพันคนถูกส่งไปยังรัสเซียโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัว ตามการเปิดเผยของรัฐบาลยูเครน
ในโปแลนด์นั้น มีผู้ลี้ภัยราว 1.5 ล้านจากยูเครนอพยพมาอาศัยอยู่ที่นี่ โดยตัวเลขนี้สูงกว่าในประเทศอื่น ๆ เพราะหลายคนเลือกอยู่ที่โปแลนด์เนื่องจากระยะทางที่ใกล้กับยูเครน และพวกเขาวางแผนที่จะกลับบ้านเกิดให้ได้สักวันหนึ่ง
ทั้งนี้ ที่โปแลนด์ เด็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนโรงเรียนในท้องถิ่น แต่ที่เยอรมนีและในอีกบางประเทศ นักเรียนผู้ลี้ภัยจะต้องเข้าเรียนที่นั่น
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือยูนิเซฟ ประเมินว่า มีผู้ลี้ภัยเด็กในโปแลนด์น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง หรือราว 180,000 คนที่เข้าเรียนในโรงเรียน โดยหลาย ๆ คนพูดภาษาโปแลนด์ไม่ได้เลย ขณะที่ มีเด็กจากยูเครนราว 30% ที่เข้าเรียนในโปแลนด์ กำลังเรียนหลักสูตรของยูเครนทางออนไลน์ไปด้วย
แต่ในกรณีของเด็กโตนั้น ตัวเลขดังกล่าวลดลงพอควร โดยมีเพียง 22% ของวัยรุ่นยูเครนในโปแลนด์ที่เข้าเรียนในโรงเรียนที่นั่น
ยิ่งไปกว่านั้น นักเรียนที่เรียนสองภาษามักมีปัญหาในโรงเรียนมากกว่าเด็กอื่น ๆ นอกเหนือไปจากปัญหาที่นักเรียนต้องรับมือกับการย้ายไปยังประเทศอื่นและความบอบช้ำจากสงคราม โดยเฉพาะเมื่อครอบครัวผู้ลี้ภัยจำนวนมากยังต้องย้ายถิ่นฐานภายในโปแลนด์หลายต่อหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักเรียนยูเครนบางคนสามารถพูดภาษาโปแลนด์ได้ดีขึ้น และวางแผนที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่นั่น แต่คนอื่น ๆ ยังคงรู้สึกว่าต่อไม่ติดและผู้ลี้ภัยบางคนยังถูกรังแกอีกด้วย
ออคซานา ซึ่งเป็นแม่ของมิลานา กล่าวว่า เธอตั้งตารอวันที่ครอบครัวของเธอจะได้กลับบ้านเกิด โดยเธอฝันไว้ว่า ลูกสาวจะได้กลับไปสู่อ้อมกอดของคุณครูของเธอ “เพราะนั่นเป็นความฝันของมิลานา”
- ที่มา: เอพี