บทวิเคราะห์และรายงานข่าว ระบุว่าการยุบคณะรัฐมนตรียามสงครามของอิสราเอลในวันจันทร์ นำมาซึ่งการรวบอำนาจกลับเข้าสู่ตัวผู้นำและกลุ่มชาตินิยมสุดขั้ว และอาจทำให้การหยุดยิงในฉนวนกาซ่ายังคงไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในอิสราเอล เกิดขึ้นหลังเบนนี แกนต์ซ และกาดี ไอเซนคอต สมาชิก ครม. สงคราม ได้ยื่นใบลาออกจากรัฐบาลในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นที่คาดว่าเนทันยาฮูจะหารือเรื่องสงครามในกาซ่ากับรัฐมนตรีกลุ่มเล็ก ๆ ที่เป็นพันธมิตรกัน อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่อิสราเอลที่ให้ข้อมูลสำนักข่าวเอพีโดยไม่ขอเปิดเผยชื่อ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อ
ครม.สงครามชุดนี้ตั้งขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม โดยเนทันยาฮูและรัฐมนตรีกลาโหม โยอาฟ กัลแลนต์ จับมือกับแกนต์ซที่เป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านตั้งกลุ่มคณะบริหารนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี
แกนต์ซระบุว่า การลาออกของเขามีสาเหตุจากความตึงเครียดเกี่ยวกับเรื่องยุทธศาสตร์ในกาซ่า โดยเขาไม่พอใจเกี่ยวกับความล่าช้าในการช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป และกล่าวหาว่า เนทันยาฮูพยายามลากสงครามให้ยาวนานออกไปเพื่อประวิงเวลาไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่ รวมถึงไม่ให้ตัวเองต้องขึ้นศาลในคดีคอร์รัปชั่น
ทิศทางนโยบายสงครามของอิสราเอลมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่นับจากนี้
การยุบรัฐบาลยามสงครามนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เนทันยาฮูยิ่งเหินห่างจากกลุ่มนักการเมืองสายกลางที่มีจุดยืนเปิดกว้างต่อการเจรจาหยุดยิงกับฮามาส ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทั้งรัฐบาลเทลอาวีฟและกลุ่มฮามาสยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อนำไปสู่การหยุดยั้งความรุนแรงได้มาหลายเดือน
ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างยังลังเลที่จะยอมรับแผนที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน และระบุรายละเอียดให้มีการคืนอิสรภาพแก่ตัวประกัน เปิดทางให้นำไปสู่การสิ้นสุดสงครามครั้งนี้และฟื้นฟูดินแดนที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง
การยุบ ครม. สงครามถือเป็นการชะลอข้อเรียกร้องของ อิตามาร์ เบน-เกวียร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสายชาตินิยมสุดโต่งที่ขอเข้าไปอยู่ใน ครม. ชุดดังกล่าว และยังช่วยให้เนทันยาฮูยังมีเหตุผลในการอยู่ในอำนาจเพื่อจัดการสงครามต่อไปในช่วงที่ความนิยมในตัวผู้นำรายนี้ตกต่ำ
กีเดียน ราฮัต หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์มหาวิทยาลัย Hebrew University of Jerusalem กล่าวกับเอพีว่า “นั่นหมายความว่าเขา (เนทันยาฮู) จะตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเขาเอง หรือกับกลุ่มบุคคลที่เขาเชื่อใจและไม่ท้าทายเขา” และกล่าวด้วยว่า การมีสงครามที่ลากยาว จะเป็นประโยชน์กับเนทันยาฮู
ไม่ว่าความเป็นไปในกาซ่าจะเป็นอย่างไร ล้วนแล้วแต่มีผลต่ออีกแนวรบของอิสราเอลในพรมแดนตอนเหนือที่ติดกับเลบานอน ที่ปัจจุบันกองทัพรัฐบาลเทลอาวีฟและกลุ่มเฮซบอลลาห์สู้รบตอบโต้กันไปมาจนใกล้จะเข้าสู่สภาวะสงครามเต็มรูปแบบ
พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า “ความรุนแรงที่มากขึ้นจากเฮซบอลลาห์กำลังเพิ่มความเสี่ยงสู่การยกระดับความรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อเลบานอนและทั้งภูมิภาค เฮซบอลลาห์กำลังสร้างความเสี่ยงต่ออนาคตของเลบานอน เพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นเกราะกำบังให้ฮามาส”
ส่วน เอบราฮัม เลอวีน จากองค์กรคลังสมอง Alma Center กล่าวกับ วีโอเอ ว่า อิสราเอลและเฮซบอลลาห์นั้นถือว่าเข้าสู่การสู้รบในรูปแบบสงครามเต็มตัวแล้วในแง่การยิงกันด้วยปืนใหญ่ เพียงแต่ยังไม่ได้เคลื่อนกำลังพลภาคพื้นดินกันเท่านั้น
ประชาชนชาวอิสราเอลและเลบานอนนับหมื่นคนถูกสั่งให้ย้ายออกจากพื้นที่ชายแดนซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะเป็นพื้นที่สู้รบที่รุนแรงกว่าการตอบโต้กันไปมาในช่วงแปดเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่อิสราเอลตัดสินใจโจมตีฉนวนกาซ่าเพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาส
ฮัสซาน นาสรัลลาห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลลาห์ กล่าวว่า การเจรจาหยุดยิงใด ๆ กับอิสราเอลจะขึ้นอยู่กับผลการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส
นาสรัลลาห์กล่าวด้วยว่า "พวกเราหวังว่าสงครามจะหยุดลง ณ จุดใดจุดหนึ่ง แต่หากเขา (เนทันยาฮู) ยังยืนกรานในการทำสงคราม เขาก็จะนำกลุ่มก้อนไซออนนิสต์เข้าสู่หายนะ และจะยืนอยู่ในฝั่งตั้งรับต่อชัยชนะอันเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และน่าภาคภูมิใจ"
- ที่มา: เอพี, วีโอเอ