สมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกงจำนวน 15 คนซึ่งสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย รวมตัวแสดงจุดยืนต่อต้านผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง แคร์รี แลม และรัฐบาลกรุงปักกิ่ง เป็นครั้งสุดท้ายก่อนยกขบวนลาออกในวันพฤหัสบดี
การประท้วงด้วยการลาออกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลฮ่องกงมีคำสั่งถอดถอนสมาชิกสภานิติบัญญัติของฮ่องกง 4 คนเมื่อวันพุธ สืบเนื่องจากคำตัดสินของคณะกรรมาธิการด้านนิติบัญญัติของรัฐบาลกรุงปักกิ่งที่ว่า รัฐบาลฮ่องกงมีอำนาจตัดสิทธิ์นักการเมืองที่เชื่อว่าเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงโดยไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม
โดยการตัดสิทธิ์นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 4 คน ได้แก่ อัลวิน เหยียง, เดนิส กว็อก, เคนเน็ธ เหลียง และ กว็อก คา-กี ประกอบกับการลาออกของสมาชิกสภานิติบัญญัติอีก 15 คน จะทำให้ฮ่องกงเหลือจำนวนผู้แทนในสภานิติบัญญัติเพียง 70 คน ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด
การตัดสิทธิ์ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามล่าสุดของรัฐบาลจีนในการสยบกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงที่เชื่อว่าเป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายและการประท้วงในฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว
สหประชาชาติและรัฐบาลชาติตะวันตกได้ออกมาตำหนิการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลฮ่องกง โดยที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาว โรเบิร์ต โอไบรอัน กล่าวว่าพรรคคอมนิวนิสต์จีนกำลังละเมิดพันธะสัญญาระหว่างประเทศ และกำลังพยายามสร้างระบบเผด็จการพรรคเดียวในฮ่องกง
กฎหมายฉบับใหม่ที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งผ่านออกมาใช้กับฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วมีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล โดยมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่มีความผิดฐานพยายามแบ่งแยกดินแดน ล้มล้างการปกครอง ก่อการร้าย และสมคบคิดกับต่างชาติเพื่อทำการใดๆ
กฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากประเทศในโลกตะวันตกว่าเป็นการลิดรอนสิทธิ์และเสรีภาพของเขตปกครองพิเศษแห่งนี้