Your browser doesn’t support HTML5
"ความฝันของผม ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเงิน แต่ผมใฝ่ฝันที่จะเลือกจะใช้ชีวิตอย่างไร และมองดำเนินชีวิตอย่างมีความหมายมากกว่า"
'ฮักกี้ อักเดนิซ' (Hakki Akdeniz) มหาเศรษฐี เชื้อสายชาวเคิร์ด ในนครนิวยอร์ก บอกถึงการเดินตามความฝันของตัวเอง ในฐานะคนที่จะร่ำรวยถึงขั้นที่เรียกได้ว่าเป็น นักธุรกิจระดับมิลเลียนแนร์ ได้เต็มปาก แต่ ฮักกี้ ยังคงทำงานวุ่นตลอดวัน ใช้ชีวิตเรียบง่ายอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เล็กๆในนิวยอร์ก ทั้งๆที่มีเงินมากพอที่จะซื้อห้องพักระดับหรูหรา หรือ รถยนต์ราคาแพงไว้ใช้
"ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าจะมีเงินอยู่มากมายเท่าไหร่ แต่สำคัญอยู่ที่ความเพียงพอในตัวเอง จริงๆแล้วแม้จะมีเงินทองมากมายแต่ผมก็เลือกที่ใช้ชีวิตธรรมดา ใส่นาฬิกาในราคาเรือนละไม่เกิน 100 ดอลลาร์ ทั้งๆที่เขามีเงินซื้อนาฬิกาหรูราคาแพงได้สบายๆ แต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องแบบนั้น" ฮักกี้บอกถึงแนวคิดของตัวเอง
ชีวิตที่ต่อสู้มาตั้งแต่วัยเด็ก มีส่วนหล่อหลอมให้เขากลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน
ฮักกี้ ในวัย 39 ปี เติบโตในครอบครัวชาวเคิร์ด ในตะวันออกกลาง มีพี่น้องถึง 17 คน เขาอพยพไปแสวงหาชีวิตใหม่ที่แคนาดาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นก่อนจะมุ่งหน้าเพื่อมาปักหลักที่มหานครนิวยอร์ก เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนตามคำชักชวนของเพื่อนชาวอเมริกัน ที่รับปากว่าจะช่วยเหลือแต่ทันทีที่มาถึงทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด เพื่อนที่เคยฝากความหวังไม่รับการติดต่อจากเขา ทำให้ฮักกี้ ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เร่ร่อนตามท้องถนน ซุกหัวนอนบนม้านั่งยาวในสถานีรถไฟ หรือ ไม่ก็บ้านพักพิงคนจรจัดอยู่หลายเดือน และเป็นชีวิตที่เขาไม่เคยลืมมาจนทุกวันนี้
"ผมจะไม่ลืมวันนั้นวันที่ผมเดินทางมาถึงนิวยอร์ก เพราะว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม"
แม้จะยากลำบากในเมืองใหญ่ แต่ ฮักกี้ กัดฟันเริ่มต้นทำงานเป็นคนล้างจานในร้านพิซซ่า ก่อนไต่เต้าเป็นคนงานตัดพิซซ่า ทำงานหนักวันละ 19ชั่วโมงเก็บหอมรอมริบเงินทองทุกดอลลาร์ ทุกเพนนี จนในที่สุดสามารถเซ้งกิจการเปิดร้านขายพิซซ่าของตัวเองได้สำเร็จ
ความทุ่มเทและเรียนรู้ทักษะการทำพิซซ่าที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง มีส่วนทำให้เขาชนะการแข่งทำพิซซ่า จนได้รับความสนใจจากนิตยสาร เข้ามาสัมภาษณ์และตีพิมพ์เรื่องราวของเขาจนเป็นที่รู้จัก ก่อนกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จในธุรกิจขายพิซซ่าทีมีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย
"ผมถามตัวเองว่า ผมดังแล้วเหรอ? แต่พนักงานของผมบอกว่า มีคนมาที่ร้านเยอะแยะเลย มาพร้อมกับนิตยสารที่ลงเรื่องราวของเรา มาขอถ่ายรูปกับเรา แล้วผมก็เห็นคนยืนซื้อพิซซ่าต่อแถวยาวไปถึงข้างนอกร้าน และนั่นคือจุดเริ่มต้นทำให้ผมต้องขยายกิจการในสาขาต่อไป"
ร้านพิซซ่า "แชมป์เปียน" (Champion) ที่มาจากชื่อเล่นของเขา ประสบความสำเร็จและขยายสาขาแล้วกว่า 14 แห่งแน่นอนว่าทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง ในฐานะผู้อพยพที่เดินทางมาประสบความสำเร็จบนแผ่นดินอเมริกา ได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวบนเวทีที่ประชุมองค์การสหประชาชาติ มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมมากกว่า 4 ล้านคน รวมไปถึงคลิปวีดิโอที่เขาทำอาหารแจกคนไร้บ้าน ที่มียอดผู้ชมกว่า 400 ล้านวิว
เขายังจดจำได้ดีถึงความลำบากและความแออัดของการอาศัยในสถานพักพิงคนจรจัด ที่หลายคนมองว่าความเป็นอยู่น่าจะดีกว่าบนท้องถนน แต่ในหลายกรณีไม่ได้เป็นเช่นนั้น
"ในห้องที่ผมอยู่มีคนจรจัดนอนแออัดอยู่ด้วยกันมากกว่า 25-30 คน หลายคนบอกว่าอยู่ที่ในสถานพักพิงแบบนี้น่าจะสะดวกสบายแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ มันน่าอึดอัดและไม่มีอิสระเลย"
Your browser doesn’t support HTML5
และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้มหาเศรษฐีอดีตคนเร่ร่อน ไม่เคยลืม 'กลิ่นพื้นถนน' และ 'ผ้าห่มสกปรก' ที่เขาเคยผ่านมา และอยากจะยกระดับชีวิตคนเร่ร่อนในนิวยอร์กให้ดีขึ้น ด้วยแผนก่อสร้างอาคาร 6 ชั้นให้เป็นสถานพักพิงแห่งใหมที่จะมีพื้นที่รองรับคนไร้บ้านให้เข้ามาพักและเรียนหนังสือเพื่อยกระดับตัวเอง เพราะ ฮักกี้ เชื่อว่า ในท้ายที่สุดแล้ว บางครั้งคนเราก็แค่ต้องการจะมีใครสักคนที่เข้าใจและมองเห็น ด้วยความปรารถนาดีด้วยความเชื่อมั่นว่าชีวิตเราสามารถดีขึ้นได้ในวันหนึ่งข้างหน้า