Your browser doesn’t support HTML5
การบำบัดเชื้อเอชไอวีด้วยโมโนโคลนัล แอนติบอดี้ที่เรียกว่า VRCO1 เป็นการบำบัดแอนติบอดี้แบบใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากความก้าวหน้าด้านชีววิศวกรรมการแพทย์
สารโมโนโคลนอล แอนติบอดี้ (monoclonal antibody) มีลักษณะคล้ายกับแอนติบอดี้ที่สร้างขึ้นโดยระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายคนเรา ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย แต่ยาโมโนโคลนอล แอนติบอดี้ชนิดต่างๆจะมีตัวแอนติบอดี้ที่ต่างกันไป โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ออกแบบให้ทำหน้าที่ในการทำลายเชื้อโรคใดเชื้อโรคหนึ่งในเป้าหมายเท่านั้น
ปัจจุบัน สารโมโนโคลนอล แอนติบอดี้ รวมไปถึงยาต่างๆที่ออกแบบให้ไปกดระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยที่เป็นโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ตลอดจนยาที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิต้านทานร่างกายตามธรรมชาติเข้มเเข็งขึ้นเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง
ในขณะที่การใช้ยาสารโมโนโคลนอล แอนติบอดี้เหล่านี้ อาจจะไม่ช่วยให้ผู้ป่วยหายจากโรคเสมอไป แต่ในหลายๆกรณีก็มีผลให้พัฒนาการของโรคเกิดช้าลง
ยา VRCO1 พัฒนาโดยทีมนักวิจัยที่สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งสหรัฐ (U.S. Institute of Allergy and Infectious Diseases) และในการทดสอบขั้นต้นที่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 20 กว่าคนเข้าร่วม พบว่ายา VRCO1 มีประสิทธิภาพอย่างมากในการกำจัดและทำลายเชื้อไวรัสเอชไอวีในร่างกายผู้ติดเชื้อ
นายแอนโธนี่ เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งสหรัฐกล่าวว่ายาตัวนี้ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ แก่ผู้ติดเชื้อ และช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีลงมา
นายเฟาชี่กล่าวว่าในผู้ป่วย 15 คนที่ใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีก่อนหน้าการทดลองรักษานี้ไม่ตอบสนองต่อการบำบัดด้วยยาทดลองตัวนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่ายาต้านไวรัสที่ใช้ก่อนหน้าการทดลองช่วยลดปริมาณเชื้อไวรัสเอชไอวีลงจนแทบตรวจไม่พบในกระเเสเลือด
แต่ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีในการทดลองสองคน การบำบัดด้วยยา VRCO1 นี้ช่วยกำจัดเชื้อไวรัสเอชไอวีไปจนหมดในเวลา 20 วันและในผู้ป่วยที่เหลือ ทีมนักวิจัยพบว่าปริมาณไวรัสในกระแสเลือดของผู้ป่วยลดลงอย่างมากภายใน 3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในการทดลองสองคนที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่อการทดลองบำบัดด้วยยาตัวใหม่นี้ และทีมนักวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ว่าพวกเขาติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยา
ผลการทดลองบำบัดขั้นต้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Science Translational Medicine ไปเมื่อเร็วๆนี้
เนื่องจากทีมนักวิจัยตรวจพบเชื้อไวรัชเอชไอวีกลับคืนในกระเเสเลือดผู้ติดเชื้ออีกภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจบการทดลองบำบัด นายเฟาชี่กล่าวว่าการทดลองรักษาครั้งต่อๆไปในอนาคต ทีมนักวิจัยจะทดลองดูว่ายา VRCO1 นี้สามารถป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสกลับคืนได้หรือไม่หากผู้ป่วยใช้ยาติดต่อกัน
นายเฟาชี่กล่าวว่าการทดลองรักษานี้จะเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยยืนยันได้ว่ายา VRCO1 สามารถช่วยป้องกันและบำบัดการติดเชื้อเอชไอวีได้หรือไม่
ทีมนักวิจัยชี้ว่ายาตัวนี้อาจนำไปใช้กับคนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดจากการติดเชื้อเอชไอวี นายเฟาชี่ชี้ว่าการทดลองรักษาเฟสที่สองจะเป็นการทดสอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยาโมโนโคลนอลแอนติบอดี้ในการกำจัดเชื้อเอชไอวี โดยจะเริ่มการทดลองในปีนี้
(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตันถ่ายทอดรายงานเสนอ)