ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่ามีคนติดยาเฮโรอีนและฝิ่นราว 20 ล้านคนทั่วโลก การเสพติดเฮโรอีนด้วยการฉีดยาเข้าทางเส้นเลือดมีส่วนให้เกิดการแพร่กระจายของโรคติดต่อร้ายแรงหลายชนิดรวมทั้งโรคเอดส์และโรคตับอักเสบชนิดซี หากมีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน นอกจากนี้ผู้เสพเฮโรอีนยังมีโอกาสเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร อาจจะเนื่องมาจากการใช้ยาเฮโรอีนเกินขนาดหรืออาจะเกิดจากความรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าเฮโรอีน
ปัจจุบันการบำบัดผู้ที่กลับไปติดเฮโรฮีนรอบใหม่ให้หายขาดทำได้ยากมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญมีความหวังว่าวัคซีนที่กำลังอยู่ระหว่างขึ้นทดลองนี้อาจจะสามารถป้องกันอาการติดยาได้เเม้ว่าผู้ป่วยจะกลับไปเสพยาหลังการรักษาอีกก็ตาม
วัคซีนบำบัดเฮโรฮีนพัฒนาขึ้นโดยคุณคิม เจนดาและทีมงานที่สถาบัน Scripps Research ที่ ลาโฮยยา ในรัฐเเคลิฟอร์เนีย วัคซีนตัวนี้หลอกให้ระบบภูมิคุ้นกันในร่างกายทำการต่อต้านสารเฮโรอีนที่เข้าไปในกระเเสเลือดเพราะเข้าใจว่าเฮโรอีนเป็นตัวเชื้อโรคเหมือนกับเชื้อไวรัสและเชื้อเเบคทีเรีย
สารในวัคซีนที่ยังอยู่ในขั้นทดลองนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตแอนติบอดี้ออกมาป้องกันไม่ให้สารเฮโรอีินเข้าไปยังสมองของผู้เสพยา ซึ่งคุณเจนดา หัวหน้าทีมวิจัยเน้นว่าสมองเป็นจุดสำคัญเพราะเมื่อเฮโรอีนเข้าไปจนถึงสมองจะไปกระตุ้นให้เกิดความอยากเสพยา
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าวัคซีนตัวนี้จะเป็นตัวกั้นไม่ให้สารเฮโรอีน เข้าไปยังสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจและเมื่อสารเฮโรอีนยังไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ระบบภูมิคุ้นกันร่างกายจะผลิตเอนไซม์ที่จะลดฤทธิ์ของเฮโรอีนลงเรื่อยๆจนถูกทำลายไปในที่สุด
คุณเจนดา ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและภูมิต้านทานร่างกายกล่าวว่าการพัฒนาวัคซีนป้องกันการติดเฮโรอีนเป็นงานที่ท้าทายมากเนื่องจากร่างกายคนจะทำการย่อยสารเฮโรอีนออกเป็นสารเคมีหลายประเภท
คุณเจนดากล่าวว่าผลการทดลองวัคซีนหลายครั้งกับหนูทดลองที่ติดเฮโรอีนได้ผลน่าพอใจอย่างมาก ในการทดลอง หนูทดลองได้รับการบำบัดให้เลิกอยากเสพเฮโรฮีนเป็นเวลานานหนึ่งเดือน เท่ากับระบะเวลาบำบัดผู้ป่วยติดเฮโรอีน
ในขั้นต่อมา ทีมนักวิจัยได้เเบ่งหนูทดลองออกเป็นสองกลุ่ม โดยหนูทดลองทั้งสองกลุ่มดื่มน้ำที่ผสมเฮโรอีนในปริมาณมากตามใจชอบ แต่นักวิจัยได้ีฉีดวัคซีนบำบัดอาการเสพติดเฮโรฮีนให้หนูทดลองกลุ่มแรกเพียงกลุ่มเดียว
คุณเจนดา หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาพบว่าหนูทดลองกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมีอาการติดยาหนักขึ้นและต้องการเสพเฮโรฮีนจำนวนเพิ่มขึ้นเท่าตัวในขณะที่หนูทดลองกลุ่มที่ได้รับวัคซีนไม่เเสดงอาการอยากยาอีกต่อไป
หนูทดลองที่ได้รับวัคซีนทุกตัวจะไม่กลับไปติดเฮโรฮีนอีกครั้งหลังการบำบัด แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าวัคซีนอาจจะไม่สามารถบำบัดผู้ติดยาให้หายขาดได้หากใช้เดี่ยวๆและแนะว่าน่าจะใช้ร่วมกับการบำบัดพฤติกรรมติดยาวิธีอื่นๆด้วยเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด
ขณะนี้ทีมวิจัยกำลังเสาะหาทุนสนับสนุนการทดลองวัคซีนป้องกันอาการติดเฮโรอีนในคน โดยคาดว่าอาจจะเริ่มต้นทดลองได้ในช่วงปลายปีนี้
ปัจจุบันการบำบัดผู้ที่กลับไปติดเฮโรฮีนรอบใหม่ให้หายขาดทำได้ยากมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญมีความหวังว่าวัคซีนที่กำลังอยู่ระหว่างขึ้นทดลองนี้อาจจะสามารถป้องกันอาการติดยาได้เเม้ว่าผู้ป่วยจะกลับไปเสพยาหลังการรักษาอีกก็ตาม
วัคซีนบำบัดเฮโรฮีนพัฒนาขึ้นโดยคุณคิม เจนดาและทีมงานที่สถาบัน Scripps Research ที่ ลาโฮยยา ในรัฐเเคลิฟอร์เนีย วัคซีนตัวนี้หลอกให้ระบบภูมิคุ้นกันในร่างกายทำการต่อต้านสารเฮโรอีนที่เข้าไปในกระเเสเลือดเพราะเข้าใจว่าเฮโรอีนเป็นตัวเชื้อโรคเหมือนกับเชื้อไวรัสและเชื้อเเบคทีเรีย
สารในวัคซีนที่ยังอยู่ในขั้นทดลองนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตแอนติบอดี้ออกมาป้องกันไม่ให้สารเฮโรอีินเข้าไปยังสมองของผู้เสพยา ซึ่งคุณเจนดา หัวหน้าทีมวิจัยเน้นว่าสมองเป็นจุดสำคัญเพราะเมื่อเฮโรอีนเข้าไปจนถึงสมองจะไปกระตุ้นให้เกิดความอยากเสพยา
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าวัคซีนตัวนี้จะเป็นตัวกั้นไม่ให้สารเฮโรอีน เข้าไปยังสมองในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจและเมื่อสารเฮโรอีนยังไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ระบบภูมิคุ้นกันร่างกายจะผลิตเอนไซม์ที่จะลดฤทธิ์ของเฮโรอีนลงเรื่อยๆจนถูกทำลายไปในที่สุด
คุณเจนดา ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีและภูมิต้านทานร่างกายกล่าวว่าการพัฒนาวัคซีนป้องกันการติดเฮโรอีนเป็นงานที่ท้าทายมากเนื่องจากร่างกายคนจะทำการย่อยสารเฮโรอีนออกเป็นสารเคมีหลายประเภท
คุณเจนดากล่าวว่าผลการทดลองวัคซีนหลายครั้งกับหนูทดลองที่ติดเฮโรอีนได้ผลน่าพอใจอย่างมาก ในการทดลอง หนูทดลองได้รับการบำบัดให้เลิกอยากเสพเฮโรฮีนเป็นเวลานานหนึ่งเดือน เท่ากับระบะเวลาบำบัดผู้ป่วยติดเฮโรอีน
ในขั้นต่อมา ทีมนักวิจัยได้เเบ่งหนูทดลองออกเป็นสองกลุ่ม โดยหนูทดลองทั้งสองกลุ่มดื่มน้ำที่ผสมเฮโรอีนในปริมาณมากตามใจชอบ แต่นักวิจัยได้ีฉีดวัคซีนบำบัดอาการเสพติดเฮโรฮีนให้หนูทดลองกลุ่มแรกเพียงกลุ่มเดียว
คุณเจนดา หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเขาพบว่าหนูทดลองกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนมีอาการติดยาหนักขึ้นและต้องการเสพเฮโรฮีนจำนวนเพิ่มขึ้นเท่าตัวในขณะที่หนูทดลองกลุ่มที่ได้รับวัคซีนไม่เเสดงอาการอยากยาอีกต่อไป
หนูทดลองที่ได้รับวัคซีนทุกตัวจะไม่กลับไปติดเฮโรฮีนอีกครั้งหลังการบำบัด แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าวัคซีนอาจจะไม่สามารถบำบัดผู้ติดยาให้หายขาดได้หากใช้เดี่ยวๆและแนะว่าน่าจะใช้ร่วมกับการบำบัดพฤติกรรมติดยาวิธีอื่นๆด้วยเพื่อให้ได้ผลมากที่สุด
ขณะนี้ทีมวิจัยกำลังเสาะหาทุนสนับสนุนการทดลองวัคซีนป้องกันอาการติดเฮโรอีนในคน โดยคาดว่าอาจจะเริ่มต้นทดลองได้ในช่วงปลายปีนี้