‘ทรัมป์-แฮร์ริส’ เตรียมต่อสู้ทางกฎหมาย หากไร้ผู้ชนะในคืนเลือกตั้ง

  • VOA

ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ระหว่างการชมดีเบตของรองปธน.คามาลา แฮร์ริส และอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ Angry Elephant Bar and Grill เมื่อ 10 ก.ย. 2024 ในซานอันโตนิโอ (AP Photo/Eric Gay)

ชาวอเมริกันเตรียมออกไปใช้สิทธิ์เลือกผู้นำสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันดุเดือดชนิดหายใจรดต้นคอระหว่างรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนทีมงานของทั้งคู่ต่างเตรียมการสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่อาจกำหนดผลการเลือกตั้งในครั้งนี้

ชื่อของรองปธน.คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.สหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต และอดีตรองปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.จากพรรครีพับลิกัน ปรากฎบนบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ ในนิวยอร์ก เมื่อ 3 พ.ย. 2024 (AP Photo/Patrick Sison)

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกัน ได้กล่าวกับสื่อหลายสำนักว่า หากผลเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ “สุจริต ยุติธรรม และเป็นอิสระ” เขาจะยอมรับผลการเลือกตั้ง

เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งได้ให้ความเชื่อมั่นว่ากระบวนการลงคะแนนเสียงจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม แต่อดีตปธน.ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าคู่แข่งของตนอาจกำลังโกงการเลือกตั้ง

ทรัมป์ กล่าวว่า “หากเราสามารถควบคุมการทุจริตการเลือกตั้งลงได้เพราะมีการโกงเกิดขึ้นมากมาย หากเราสามารถควบคุมการโกงเลือกตั้งได้ เราจะได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่”

ระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อเดือนที่แล้ว ทางรายการ NBC Nightly news with Lester Holt ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส กล่าวกับผู้ดำเนินรายการฮัลลี แจ็คสัน ว่าทีมงานของเธอได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากทรัมป์ปราชัยและพยายามที่จะล้มล้างการเลือกตั้ง

แฮร์ริส กล่าวว่า “เราจะรับมือกับค่ำคืนการเลือกตั้งและอีกหลายวันหลังจากนั้น เรามีทรัพยากรและผู้เชี่ยวชาญ และเราได้ให้ความสนใจกับเรื่องนั้นเช่นกัน”

ด้านคณะกรรมการแห่งชาติรีพับลิกัน (Republican National Committee) ได้เตรียมสิ่งที่เรียกว่า “Election Integrity Program” ในรัฐสมรภูมิต่าง ๆ ทีมนักกฎหมายได้ยื่นฟ้องมากกว่าร้อยคดีเกี่ยวกับการละเมิดกฎการเลือกตั้ง แต่หลายคดีถูกปัดตกไปในชั้นศาล

ฝั่งพรรคเดโมแครตได้เดินเรื่องต่อสู้ทางกฎหมายด้วยเช่นกัน รวมถึงการฟ้องร้องเพื่อป้องกันความล่าช้าในการยืนยันผลการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย

ศึกเลือกตั้งที่มีการขับเคี่ยวสูสีในปีนี้ การต่อสู้ทางกฎหมายเป็นเรื่องคาดหมายว่าจะเกิดขึ้นได้ และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในสวิง สเตท ในทัศนะของนักวิเคราะห์

ไมเคิล ธอร์นนิง นักวิเคราะห์จาก Bipartisan Policy Center กล่าวกับวีโอเอผ่านสไกป์ว่า “ที่คูหาเลือกตั้ง เรามักเห็นการร้องเรียนเรื่องบัตรลงคะแนนไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม .. ในการเลือกตั้งในอดีต .. มีการถกเถียงกันว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแต่ละคนมีสิทธิ์จริงหรือไม่ รวมทั้งควรให้มีการโหวตและนับคะแนนบัตรลงคะแนนชั่วคราว (provisional ballot) หรือไม่”

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า ผู้ที่อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น จะต้องมีหลักฐานชี้แจงที่ชัดเจน

โรเบิร์ต เกรซี อดีตผู้พิพากษารัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกของ Keep Our Republic องค์กรการศึกษาด้านภัยคุกคามการเลือกตั้ง กล่าวกับวีโอเอผ่านสไกป์ว่า “บรรดาทนายทั้งหลายโปรดระวังสิ่งที่คุณกำลังกล่าวหา! แน่ใจด้วยว่ามีหลักฐานยืนยันได้ ไม่เช่นนั้นอาจเจอบทลงโทษทางวินัยเหมือนที่เราเคยเห็นในการเลือกตั้งเมื่อปี 2020”

ตัวอย่างเช่น อดีตทนายความของทรัมป์ รูดี้ จูลิอานี ถูกเพิกถอนใบอนุญาตว่าความ ฐานเผยแพร่คำกล่าวอ้างว่ามีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อปี 2020

การต่อสู้ทางกฎหมายเหล่านี้อาจทำให้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าช้าออกไป แต่หากค่ำคืนวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนมีผลที่ชี้ชัดว่าผู้สมัครคนใดคนหนึ่งได้คะแนนเหนือคู่แข่งอีกคนอย่างมาก นักวิเคราะห์ต่างมองว่าสิ่งนี้จะทำให้ยากที่พรรคคู่แข่งจะพยายามคัดค้านผลการเลือกตั้งได้

  • ที่มา: วีโอเอ