เหตุสังหารหมู่ในโรงภาพยนตร์ที่รัฐโคโลราโดทำให้ชาวอเมริกันส่วนหนึ่งตั้งคำถามถึงสิทธิการครอบครองปืนและความเป็นไปได้ที่จะให้บังคับกฏหมายที่เข้มงวดเหมือนในรัฐแคลิฟอร์เนีย
การจะมีอาวุธปืนไว้ครอบครองสัก 1 กระบอกไม่ใช่เรื่องยากเกินไปในสหรัฐ จากข้อมูลพบว่าชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคนมีอาวุธปืนอย่างน้อยคนละ 1 กระบอก ส่วนใหญ่ใช้สำหรับการล่าสัตว์ ด้านการกีฬา และการป้องกันตัว
รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งไม่กี่รัฐในอเมริกาที่มีการบังคับใช้กฏหมายและจำกัดการซื้อขายอาวุธปืน และการครอบครองยุทธภัณฑ์ต่างๆ กฏหมายของแคลิฟอร์เนียเพิ่มเงื่อนไขในหลายข้อที่ทำให้การเป็นเจ้าของปืนทำได้ยากขึ้น เช่น การห้ามประชาชนทั่วไปซื้ออาวุธที่ใช้ในกองทัพหรืออาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและประวัติการป่วยทางจิตที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน รวมไปถึงการบันทึกข้อมูลอาวุธปืนทุกกระบอกที่มีการซื้อขายในแคลิฟอร์เนีย
Richard Tomkins ตำรวจฝ่ายสืบสวนของนครลอส แองเจลิส (Los Angeles Police Department)บอกว่า มาตรการเหล่านี้บังคับได้ไม่เต็มที่มากนักเพราะผู้ซื้อปืนมีทางเลือกอื่นๆมากกว่านั้นด้วยการใช้วิธีเดินทางไปซื้อปืนจากรัฐใกลเคียงที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าแล้วนำปืนกลับเข้ามาในแคลิฟอร์เนีย บางคนอาจจะมีไว้แค่ครอบครอง แต่บางคนถึงกลับนำไปขายในตลาดทั่วไป
แม้กฏหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียจะบังคับให้ร้านขายอาวุธต้องมีใบอนุญาต แต่การซื้อขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ตที่สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้จากรัฐอื่นๆกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้การบังคับใช้กฏหมายทำได้ไม่เต็มที่
Daniel Vice ศูนย์ป้องกันความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน Brady (Brady Center to Prevent Gun Violence) บอกว่า เหตุการณ์ยิงผู้คนในรัฐโคโลราโดทำให้เห็นว่าทุกคนสามารถซื้อกระสุนปืนนับพันๆลูก อาวุธปืน และเสื้อเกราะกันกระสุนผ่านทางออนไลน์จากคนขายอาวุธบนอินเทอร์เนท และไม่ต้องคอยตอบถามคำถามจุกจิก หรือตรวจสอบประวัติ รวมทั้งลงทะเบียนบันทึกการขายอาวุธให้เสียเวลา จนเป็นคำถามที่ว่าเพราะเหตุใดถึงได้มีการปล่อยปะละเลยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมอเมริกัน
Frank Sharp นักสะสมอาวุธปืนและอดีตทหารกองทัพบกสหรัฐฯ บอกว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกให้มีพื้นฐานการใช้ปืนอย่างถูกต้องและตระหนักถึงสิทธิการครอบครองอาวุธเพื่อป้องกันตัว แต่ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นองเลือดที่โรงภาพยนตร์ในรัฐโคโลราโดไม่น้อย และกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะถามถึงสาเหตุในเหตุการณ์เหล่านั้น และแน่นอนว่าเขาจะไม่ก่ออาชญากรรมในลักษณะนั้นเพราะตระหนักถึงเรื่องนี้ดี นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่าหากมีการกวดขันในเรื่องการพกอาวุธในโรงภาพยนตร์ผลลัพท์ของเหตุการณ์คงไม่จบในลักษณะนี้
ช่องว่างทางกฏหมายระหว่างรัฐที่มีความเข้มงวดต่างๆกันมีทำให้การบังคับใช้กฏหมายทำได้ไม่ง่ายนัก เช่นเดียวกับข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญสหรัฐที่ระบุในบทแก้รัฐธรรมนูญบทที่ 2 (2nd Amendment) ก็เป็นส่วนสำคัญที่รับรองให้สิทธิการครอบครองอาวุธปืนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานพลเมืองอเมริกันและเป็นสิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมายตั้งแต่เมื่อกว่า 320 ปีก่อน
เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงภาพยนตร์ในรัฐ Colorado คือโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดที่ผู้ต้องสงสัยซื้อปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อก่อเหตุรุนแรง และจากสถิติพบว่าในแต่ละปีจะมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกราวๆ 1 แสน 5 หมื่นคน ส่วนผู้ถูกฆาตกรรมจากอาวุธปืนนั้นมีมากกว่า 3 หมื่นคน ขณะที่ข้อถกเถียงในเรื่องการจำกัดและเข้มงวดในการครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐที่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญระดับชาติและยังไม่มีข้อสรุป
รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งไม่กี่รัฐในอเมริกาที่มีการบังคับใช้กฏหมายและจำกัดการซื้อขายอาวุธปืน และการครอบครองยุทธภัณฑ์ต่างๆ กฏหมายของแคลิฟอร์เนียเพิ่มเงื่อนไขในหลายข้อที่ทำให้การเป็นเจ้าของปืนทำได้ยากขึ้น เช่น การห้ามประชาชนทั่วไปซื้ออาวุธที่ใช้ในกองทัพหรืออาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและประวัติการป่วยทางจิตที่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 วัน รวมไปถึงการบันทึกข้อมูลอาวุธปืนทุกกระบอกที่มีการซื้อขายในแคลิฟอร์เนีย
Richard Tomkins ตำรวจฝ่ายสืบสวนของนครลอส แองเจลิส (Los Angeles Police Department)บอกว่า มาตรการเหล่านี้บังคับได้ไม่เต็มที่มากนักเพราะผู้ซื้อปืนมีทางเลือกอื่นๆมากกว่านั้นด้วยการใช้วิธีเดินทางไปซื้อปืนจากรัฐใกลเคียงที่มีความเข้มงวดน้อยกว่าแล้วนำปืนกลับเข้ามาในแคลิฟอร์เนีย บางคนอาจจะมีไว้แค่ครอบครอง แต่บางคนถึงกลับนำไปขายในตลาดทั่วไป
แม้กฏหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียจะบังคับให้ร้านขายอาวุธต้องมีใบอนุญาต แต่การซื้อขายอาวุธปืนทางอินเทอร์เน็ตที่สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้จากรัฐอื่นๆกลายเป็นช่องว่างที่ทำให้การบังคับใช้กฏหมายทำได้ไม่เต็มที่
Daniel Vice ศูนย์ป้องกันความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืน Brady (Brady Center to Prevent Gun Violence) บอกว่า เหตุการณ์ยิงผู้คนในรัฐโคโลราโดทำให้เห็นว่าทุกคนสามารถซื้อกระสุนปืนนับพันๆลูก อาวุธปืน และเสื้อเกราะกันกระสุนผ่านทางออนไลน์จากคนขายอาวุธบนอินเทอร์เนท และไม่ต้องคอยตอบถามคำถามจุกจิก หรือตรวจสอบประวัติ รวมทั้งลงทะเบียนบันทึกการขายอาวุธให้เสียเวลา จนเป็นคำถามที่ว่าเพราะเหตุใดถึงได้มีการปล่อยปะละเลยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสังคมอเมริกัน
Frank Sharp นักสะสมอาวุธปืนและอดีตทหารกองทัพบกสหรัฐฯ บอกว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกให้มีพื้นฐานการใช้ปืนอย่างถูกต้องและตระหนักถึงสิทธิการครอบครองอาวุธเพื่อป้องกันตัว แต่ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นองเลือดที่โรงภาพยนตร์ในรัฐโคโลราโดไม่น้อย และกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะถามถึงสาเหตุในเหตุการณ์เหล่านั้น และแน่นอนว่าเขาจะไม่ก่ออาชญากรรมในลักษณะนั้นเพราะตระหนักถึงเรื่องนี้ดี นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่าหากมีการกวดขันในเรื่องการพกอาวุธในโรงภาพยนตร์ผลลัพท์ของเหตุการณ์คงไม่จบในลักษณะนี้
ช่องว่างทางกฏหมายระหว่างรัฐที่มีความเข้มงวดต่างๆกันมีทำให้การบังคับใช้กฏหมายทำได้ไม่ง่ายนัก เช่นเดียวกับข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญสหรัฐที่ระบุในบทแก้รัฐธรรมนูญบทที่ 2 (2nd Amendment) ก็เป็นส่วนสำคัญที่รับรองให้สิทธิการครอบครองอาวุธปืนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานพลเมืองอเมริกันและเป็นสิทธิที่บัญญัติไว้ในกฎหมายตั้งแต่เมื่อกว่า 320 ปีก่อน
เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงภาพยนตร์ในรัฐ Colorado คือโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดที่ผู้ต้องสงสัยซื้อปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพื่อก่อเหตุรุนแรง และจากสถิติพบว่าในแต่ละปีจะมีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกราวๆ 1 แสน 5 หมื่นคน ส่วนผู้ถูกฆาตกรรมจากอาวุธปืนนั้นมีมากกว่า 3 หมื่นคน ขณะที่ข้อถกเถียงในเรื่องการจำกัดและเข้มงวดในการครอบครองอาวุธปืนในสหรัฐที่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญระดับชาติและยังไม่มีข้อสรุป