Your browser doesn’t support HTML5
Google ทดลองรถไร้คนขับมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ Google โพสต์ข้อมูลไว้ที่ Medium Monday ว่า นับตั้งแต่เริ่มทดลองใช้รถไร้คนขับออกแล่นตามถนนในอเมริกาเมื่อหกปีที่แล้ว ปรากฏว่าประสบอุบัติเหตุ 11 ครั้งด้วยกัน และยืนยันว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นความผิดพลาดจากฝีมือหรือฝีเท้าของมนุษย์
Chris Urmson ผู้อำนวยการโครงการรถไร้คนขับของ Google บอกว่า แม้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเซ็นเซอร์ที่ใช้กับรถจะรู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุ และสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้เร็วกว่าปฏิกิริยาของนักขับรถทั่วไป แต่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่ได้ เพราะไม่สามารถปรับแก้ระยะทางและความเร็วของรถคันอื่นๆในเวลาจริงได้ และบางครั้งรถของ Google ถูกชนท้ายขณะรอไฟจราจร
ข้อมูลที่ Google เปิดเผยออกมาระบุว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น 7 ครั้งเป็นการถูกชนท้าย อีก 2 ครั้งถูกเฉี่ยวด้านข้าง และอีกหนึ่งครั้งเป็นการชนกับรถที่ฝ่าป้ายหยุด ในขณะที่อุบัติเหตุ 8 ครั้งเกิดขึ้นตามถนนในเมือง
รายงานข่าวกล่าวว่า Google เปิดเผยข้อมูลข้างต้นออกมาหลังการสืบสวนของสำนักข่าว Associated Press ที่ได้รับข่าวจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า รถไร้คนขับของ Google สามคันประสบอุบัติเหตุในรัฐ California นับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
รถไร้คนขับของ Google ซึ่งสลับการขับเคลื่อนได้ระหว่างการใช้คนขับกับการไม่มีคนขับ เดินทางมาแล้วรวมระยะทาง 1.7 ล้านไมล์ เมื่อเทียบกับจำนวนอุบัติเหตุจะให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุ 6.5 ครั้งทุกหนึ่งล้านไมล์ สูงกว่าอัตราอุบัติเหตุที่เสียหายเฉพาะทรัพย์สิน 2.8 ครั้งทุกหนึ่งล้านไมล์ ซึ่งเป็นตัวเลขปี ค.ศ. 2012 ของสำนักงานความปลอดภัยในการจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติ (National Highway Traffic Safety Administration)
แต่ Google ชี้ว่ามีอุบัติเหตุอีกมากที่ไม่ได้มีการรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกับตัวเลขของ Google
บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลก hi-tech รายนี้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากกับเทคโนโลยีรถไร้คนขับ และยังมีคู่แข่งในเรื่องนี้ด้วย เช่น Uber และบริษัทผลิตรถยนต์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม Chris Urmson ของ Google เชื่อว่า จะมีรถไร้คนขับให้ได้ใช้กันอย่างแพร่หลายภายในปี ค.ศ. 2020 หรืออีกห้าปีข้างหน้านี่เอง