รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในของเยอรมนี ฮอร์สท์ ซีโฮฟเฟอร์ กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า การตัดสินใจของสมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า (UEFA) ที่ให้จัดการแข่งขันท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 คือ “การไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุด”
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์โดยมีการแข่งขันในหลายประเทศทั่วยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศต่างมีมาตรการควบคุมโควิดที่ต่างกันไป ตั้งแต่ประเทศที่อนุญาตให้ผู้ชมสามารถเข้าไปชมในสนามได้เต็มความจุ เช่น ฮังการี ไปจนถึงประเทศที่อนุญาตให้เข้าชมได้ 25 – 45% ของความจุสนาม หรือประมาณ 10,000-15,000 คน ตามรายงานของรอยเตอร์
และในสัปดาห์หน้า อังกฤษจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน โดยจะอนุญาตให้แฟนฟุตบอลเข้าร่วมชมเกมในสนามได้อย่างน้อย 60,000 คน
รัฐมนตรีกิจการภายในเยอรมนี กล่าวว่า ตนสงสัยว่าการตัดสินใจให้เดินหน้าจัดการแข่งขันยูโร 2020 นี้น่าจะอยู่บนพื้นฐานทางธุรกิจมากกว่าการปกป้องประชาชน พร้อมขอให้ทางยูฟ่าอย่าผลักภาระในการตัดสินใจเรื่องจำนวนผู้ชมไปให้แก่ประเทศเจ้าภาพ แต่ขอให้ทางยูฟ่าเป็นผู้กำหนดบรรทัดฐานขึ้นมาเอง
ก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ ทางคณะกรรมการยุโรปก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางยูฟ่าพิจารณาอย่างรอบคอบเรื่องการอนุญาตให้แฟนฟุตบอล 60,000 คนเข้าชมเกมรอบรองชนะเลิศและรอบชิงนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ในสัปดาห์หน้าด้วยเช่นกัน
รัฐมนตรีซีโฮฟเฟอร์ แถลงข่าวที่กรุงเบอร์ลินในวันพฤหัสบดี ร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี เยนส์ สปาห์น ระบุว่า เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงการระบาด ที่ประชาชนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการติดต่อสัมผัสกับผู้อื่น และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ด้านการรักษาอนามัยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในอังกฤษที่ซึ่งกำลังมีการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาที่มีอัตราการติดต่อสูง
ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี คาดการณ์ว่า สายพันธุ์เดลตาจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในเยอรมนีภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม จากการที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 80% ที่เป็นสายพันธุ์เดลตา และว่าในประเทศที่ประชาชนจำนวนมากฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียวจากสองเข็ม มักมีอัตราการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาสูง
(ที่มา: วีโอเอ รอยเตอร์ และเอพี)