ผู้ชุมนุมประท้วงร่วมแสดงความเคารพศพ จอร์จ ฟลอยด์ ก่อนพิธีฝังในวันอังคาร

การชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ และการปฏิรูปตำรวจในสหรัฐฯ ยังดำเนินต่อไป ขณะที่ผู้คนจำนวนหนึ่งได้รวมตัวกันในเมืองฮูสตัส รัฐเท็กซัส เพื่อแสดงความเคารพต่อชาวอเมริกันผิวสีผู้ซึ่งจุดประกายการเคลื่อนไหวทั่วประเทศครั้งนี้ ก่อนพิธีฝังศพจะเกิดขึ้นในวันอังคาร

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ช่วยของอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยืนยันว่า ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต จะเดินทางไปยังเมืองฮูสตัน เพื่อพบกับสมาชิกครอบครัวของ จอร์จ ฟลอยด์ และจะบันทึกวิดีโอคลิปกล่าวคำไว้อาลัยเพื่อใช้ในพิธีฝังศพด้วย

ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ร่วมทำพิธีไว้อาลัยต่อ จอร์จ ฟลอยด์ และผู้เสียชีวิตคนอื่น ๆ ณ ห้องโถงใหญ่ Emancipation Hall ภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ในวันจันทร์

พิธีเริ่มต้นด้วยการอ่านชื่อของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย จากนั้นร่วมกันคุกเข่าข้างเดียวเป็นเวลา 8 นาที 46 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่ จอร์จ ฟลอยด์ ถูกตำรวจผิวขาว เดเร็ค ชอวิน ใช้เข่ากดทับก่อนที่เขาจะเสียชีวิตที่นครมินนีแอโปลิส เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม โดยเวลาดังกล่าวได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการใช้ความรุนแรงของตำรวจ

ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี กล่าวว่า "เรามาที่นี่เพื่อรำลึกถึงความเจ็บปวด เพื่อแสดงความเคารพต่อการเรียกร้องความยุติธรรมของคนอเมริกัน และเรามาที่นี่เพื่อยกย่อง จอร์จ ฟลอยด์"

Your browser doesn’t support HTML5

รัฐเรียกร้องผู้ชุมนุมประท้วงเข้ารับการตรวจโควิด-19 หลังการติดเชื้อยังสูง

การเคลื่อนไหวของนักการเมืองสหรัฐฯ ในประเด็นความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชาวอเมริกันเชื้อสายต่างๆ โดยเฉพาะคนผิวสีนี้ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย แม้แต่ในฝั่งพรรครีพับลิกัน โดย วุฒิสมาชิก มิตต์ รอมนีย์ กลายมาเป็นสมาชิกพรรครัฐบาลรายแรกที่เข้าร่วมกับผู้ชุมนุมเดินขบวนในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนจะทวีตภาพจากการชุมนุมหลายภาพพร้อมข้อความ “Black Lives Matter” (ชีวิตของคนผิวสีก็มีค่า) “RACISM KILLS” (การเหยียดเชื้อชาติฆ่าคนได้) และ “BE JUST, LOVE MERCY, WALK HUMBLY” (จงให้ความยุติธรรม รักและเมตตา และก้าวเดินอย่างถ่อมตน)

รอมนีย์ ยังให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าว เอ็นบีซี นิวส์ ว่า สหรัฐฯ ต้องการได้ยินเสียงผู้คนออกมาต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ รวมทั้งการใช้ความรุนแรงด้วย

ทั้งนี้ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้คนหลายพันคนยังเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของ ฟลอยด์ ระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองมินนีแอโปลิสควบคุมตัว หลังทางการรัฐต่างๆ ยกเลิกคำสั่งเคอร์ฟิวที่ออกมาก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันการปล้นสดมภ์และทำลายทรัพย์สินทั้งของผู้อื่นและที่เป็นของสาธารณะที่เกิดขึ้นหลังการประท้วงเริ่มขึ้นไม่กี่วัน

แต่ขณะที่การประท้วงโดยรวมเดินหน้าโดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ มีรายงานข่าวว่า ชายผู้หนึ่งขับพุ่งเข้าชนกลุ่มผู้ชุมนุมในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน และยิงชายผู้ชุมนุมรายหนึ่งที่พุ่งเข้าหาเขาในรถ ก่อนจะก้าวออกจากรถและเดินเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเข้าแถวดูแลความสงบในบริเวณนั้น