Your browser doesn’t support HTML5
ระหว่างที่ผู้หญิงกำลังต่อสู้กับปัญหาช่องว่างทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในสังคมหรือหน้าที่การงาน ที่ปัจจุบันสตรียังคงได้รับค่าแรงเพียง 80% ของรายได้ที่ผู้ชายได้รับในตำแหน่งหน้าที่เดียวกัน แต่ตอนนี้ผู้หญิงอเมริกันที่ยังโสดแต่สตรอง กลับครอบครองอสังหาริมทรัพย์มากกว่าชายที่ไร้คู่ครองในอเมริกาแล้ว
รายงานของบริษัทสินเชื่อออนไลน์ Lending Tree ซึ่งใช้ข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากร ใน 50 เขตเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานชาวอเมริกันมีบ้านเป็นของตัวเองราว 22% ในขณะที่ชายโสดเป็นเจ้าของบ้านไม่ถึง 13%
การวิเคราะห์พบว่า ผู้หญิงโสดที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองใหญ่มีบ้านเป็นของตัวเองมากกว่าผู้ชายโสดถึง 70,000 หลัง
และจะได้เห็นความแตกต่างนี้อย่างชัดเจน ในเขตมหานครนิวยอร์กและนครลอสแองเจลิส ซึ่งผู้หญิงโสดเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยมากกว่าชายโสดเกือบสองเท่าตัว
ช่องว่างของความเป็นเจ้าของบ้านนี้ยังเด่นชัดในกรุงวอชิงตัน ที่นายหน้าซื้อขายบ้านบางรายเห็นว่าเรื่องนี้ไม่แน่แปลกใจนัก
แมเกน ยาคุบ (Megann Yaqub) แห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Long & Foster ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นแบรนด์อิสระอันดับ 1 ของประเทศในด้านยอดขาย กล่าวว่าในปีพ.ศ. 2561 ลูกค้าเกือบครึ่งหนึ่งของเธอเป็นหญิงโสดที่มีทั้งซื้อและขายบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานรุ่นใหม่และหญิงที่หย่าร้างกับสามี
ในรายงานฉบับนี้ยังระบุว่า นครนิวออร์ลีนส์เป็นเมืองใหญ่ที่มีหญิงโสดมีบ้านเป็นของตัวเองมากที่สุด โดย 27% ของบ้านเรือนที่นั่นมีผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานเป็นเจ้าของ ในขณะที่ชายโสดเป็นเจ้าของบ้านเพียง 14%
เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ตามมาเป็นอันดับสอง มีหญิงโสดเป็นเจ้าของบ้าน 26.8% ส่วนชายโสดอยู่ที่ 14%
ส่วนที่เมืองเบอร์มิงแฮม รัฐแอละบามา อยู่ที่อันดับที่สาม โดยมีหญิงโสดมีบ้านเป็นของตัวเอง 25% และชายโสดอยู่ที่ 13%
Megann Yaqub นายหน้าซื้อขายบ้าน กล่าวส่งท้ายว่า ปัจจุบันมีสตรีที่มีหน้าที่การงานประจำจำนวนมาก ซึ่งพวกเธอสามารถก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา รวมทั้งดูแลเรื่องการเงินของตนเองได้ ซึ่งการซื้อบ้านก็เป็นวัตถุประสงค์หนึ่งในการลงทุนและสร้างฐานะของพวกเธอ