Your browser doesn’t support HTML5
รัฐมนตรี Jean-Yves Le Drian กล่าวกับสื่อฝรั่งเศสว่า ฝรั่งเศสไม่แทรกแซงการเมืองอเมริกันและหวังว่าจะได้รับสิ่งนี้กลับคืนจากสหรัฐฯ บ้าง
ในวันเสาร์ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งทวีต ที่มีใจความว่า ควรมีการยกเลิกความตกลงปารีสเรื่องการปกป้องโลก จากภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าเป็นความตกลงที่ไม่มีประโยชน์และสิ้นเปลือง เขาเเนะว่าฝรั่งเศสควรคืนเงินให้กับประชาชนในรูปแบบของการลดภาษี
ปัจจุบันฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับการประท้วงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน โดยผู้ชุมนุมไม่พอใจการขึ้นภาษีของรัฐฯ และร่วมใส่เสื้อกั๊กสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์แสดงพลังร่วมกันทั่วประเทศ ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย
ในวันเสาร์ ประชาชน เกือบ 2,000 คนถูกจับกุมตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินว่า ผู้ร่วมเดินขบวนทั่วประเทศน่าจะมีทั้งหมด 136,000 คน
นอกจากฝูงชนที่กรุงปารีสแล้ว ผู้ไม่พอใจรัฐบาลยังออกมาประท้วงที่เมือง Marseilles Lyon และ Bordeaux
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเช่น หอไอเฟลในกรุงปารีส ยังถูกสั่งปิดเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย
ส่วนร้านค้าต่างๆ พยายามป้องกันการถูกทำลายและขโมยของ ด้วยการนำแผ่นไม้มาปิดตามหน้าต่างและประตู และตำรวจเข้าช่วยกั้นเขตไม่ให้เกิดการรุกล้ำมายังทรัพย์สิน ของร้านค้า และสถานที่ต่างๆ
แม้รัฐบาลยอมชะลอการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อลดอุณหภูมิการเมือง แต่ผู้ประท้วงโดยรวมยังคงต้องการแสดงความไม่พอใจที่มีต่อ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาคร็อง และเพิ่มข้อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อ คนงาน คนวัยเกษียณและนักเรียนนักศึกษา
ถือได้ว่าการลุกฮือของมวลชนครั้งนี้เป็นวิกฤตการเมืองที่สำคัญที่สุดของเขาตั้งแต่ขึ้นมาบริหารประเทศเมื่อปีที่แล้ว
แผนการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงของประธานาธิบดีมาคร็องเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
ในวันเสาร์กระทรวงกิจการภายในของฝรั่งเศสกล่าวว่า ทางการสามารถควบคุมความวุ่นวายในกรุงปารีสได้เเล้ว
ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอดัวร์ ฟีลิป เรียกร้องให้ตัวแทนกลุ่มการประท้วง “เสื้อกั๊กเหลือง” เจรจารอบใหม่กับทางการ
เขากล่าวในแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ ว่าประธานาธิบดีมาคร็องจะยื่นเสนอเพื่อให้เกิดการพูดคุยกัน ท่ามกลางความกังวัลถึงผลกระทบจากการประท้วงต่อเศรษฐกิจฝรั่งเศสและความอยู่รอดทางการเมืองของรัฐบาล
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Fern Robinson และ Megan Duzor)