ฝรั่งเศสประกาศเตือนภัยระดับสูงในวันจันทร์ ในขณะที่กำลังเกิดคลื่นความร้อนปกคลุมทั่วประเทศ และไฟป่าลุกลามหลายพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้โดยไม่มีทีท่าจะสงบลงง่าย ๆ
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งให้ทางการของจังหวัดต่าง ๆ เตรียมพร้อมขั้นสูงสุดในกรณีที่เกิดสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงแบบสุดขั้ว ในขณะที่ประเทศอังกฤษที่อยู่ติดกันกำลังเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
คลื่นความร้อนที่ปกคลุมภาคตะวันตกเฉียงใต้ของยุโรปในขณะนี้ทำให้เกิดไฟป่าในฝรั่งเศส กรีซ โปรตุเกสและสเปน ทำลายพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร และประชาชนต้องอพยพไปแล้วหลายพันคน
เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสระบุว่า อุณหภูมิในบางพื้นที่ของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอาจสูงถึง 42 องศาเซลเซียส ขณะที่แคว้นเบรอตาญทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส จะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียสซึ่งสูงสุดเป็นสถิติใหม่ของพื้นที่นี้
ที่แคว้นฌีรงค์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมไฟป่าที่ทำลายพื้นที่ไปแล้วราว 100 ตร.กม. ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลกลางเตรียมส่งเครื่องบินดับเพลิง 3 ลำ เจ้าหน้าที่ 200 คน และรถดับเพลิงอีกจำนวนหนึ่งไปช่วยในการควบคุมไฟป่า
จนถึงขณะนี้ ทางการฝรั่งเศสสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้วมากกว่า 16,000 คน โดยจัดที่พักพิงชั่วคราวขึ้น 7 แห่งเพื่อรองรับผู้ประสบภัยเหล่านั้น
ส่วนที่สเปน เจ้าหน้าที่รายงานว่ามีไฟป่าราว 20 จุดกระจายตั้งแต่ภาคใต้ไปจนถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำลายพื้นที่แล้วหลายสิบตร.กม. และมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายคน
นายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชซ มีกำหนดเยือนพื้นที่ประสบภัยในแคว้นเอ็กเตรมาดูรา ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้มากที่สุด
ที่โปรตุเกส รัฐบาลประกาศเตือนภัยไฟป่าในระดับสูง หลังจากที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 47 องศาเซลเซียสเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วก่อนที่จะลดลงมาเล็กน้อยในช่วงสุดสัปดาห์ จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าในโปรตุเกสแล้ว 2 ราย บาดเจ็บอีก 60 คน
ขณะเดียวกัน ที่ประเทศอังกฤษ ทางการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิทางภาคใต้อาจเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 40 องศาเซลเซียสในวันจันทร์หรือวันอังคารนี้ ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิสูงสุดในอังกฤษเท่าที่มีการบันทึกไว้ ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องประกาศปิดการเรียนการสอนล่วงหน้าตลอดสัปดาห์นี้
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษเตือนภัย "สีแดง" เป็นครั้งแรก เนื่องจากคลื่นความร้อนสุดขั้วซึ่งอาจ "สร้างความเสี่ยงต่อชีวิตประชาชนได้"
- ที่มา: เอเอฟพี