รัฐบาลฝรั่งเศสยอมชะลอการขึ้นภาษีเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นประเด็นทำให้ประชาชนจำนวนมากประท้วงในการเคลื่อนไหวที่ถูกเรียกว่า "การประท้วงเสื้อกั๊กเหลือง"
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เอดัวร์ ฟีลิป (Edouard Philippe) เป็นผู้ประกาศการชะลอแผนดังกล่าว เป็นเวลา 6 เดือน และบอกว่าตนเข้าใจความเจ็บปวดของประชาชน
การประท้วงโดยกลุ่มคนที่สวมเสื้อสะท้อนแสงสีเหลือง เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อต่อต้านนโยบายเพิ่มภาษีน้ำมัน ที่ทำให้ค่ารองชีพแพงขึ้น
มีประชาชนทั่วประเทศหลายหมื่นคนออกมาเเสดงพลังในช่วงสุดสัปดาห์ ถือเป็นวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาคร็อง ตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็นผู้นำฝรั่งเศสเมื่อปีที่แล้ว
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย และคนหลายร้อยรายบาดเจ็บ ขณะที่ ความวุ่ยวายทางการเมืองทำให้ธุรกิจหลายแห่ง เช่นโรงแรมในกรุงปารีสได้รับผลกระทบ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีมาคร็อง ระบุว่าภาษีดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล และหาเงินทุนสำหรับการพัฒนาภาคพลังงานสะอาด
ผู้ไม่พอใจมาตรการภาษีของรัฐบาล ใส่เสื้อสีเหลืองสะท้อนแสง ซึ่งเป็นของติดรถชาวฝรั่งเศสตามปกติ ดังนั้นจึงมีการเรียกการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่า "การประท้วงเสื้อกั๊กเหลือง"