Your browser doesn’t support HTML5
ผู้นำสหภาพยุโรปร่วมประชุมกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่กรุงปารีส เพื่อแสดงจุดยืนเรื่องความร่วมมือแบบหลายชาติ ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ตั้งแต่การสร้างสันติภาพและความมั่นคง ไปจนถึงการค้าและการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
การประชุมที่กรุงปารีสในวันอังคาร ระหว่างผู้นำสหภาพยุโรปกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอด EU-China ในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดยในฝั่งยุโรปนั้น นอกจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง ยังมีนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกล่า เมอร์เคิล และประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป ฌอง-คล้อด ยุงเคอร์ เข้าร่วมประชุมด้วย
ประธานาธิบดีมาคร็อง จัดประชุมแถลงข่าวหลังการเจรจา เน้นย้ำความร่วมมือระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นสองระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกเหนือจากสหรัฐฯ
นอกจากนี้ผู้นำฝรั่งเศสยังระบุถึงความร่วมมือในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในแอฟริกา
ประธานาธิบดีมาคร็อง กล่าวด้วยว่า ทั้งจีนและฝรั่งเศสต่างต้องการให้มีการสร้างระบบการจัดทำความร่วมมือแบบหลายประเทศขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีความสมดุลมากกว่าเดิม
ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า เวลานี้โลกกำลังเผชิญความท้าทายหลายประการ ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงคือกุญแจสำคัญในการรับมือความท้าทายเหล่านั้น
ผู้นำจีนยังได้ระบุถึงแนวคิดปกป้องผลประโยชน์ในประเทศและการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวว่ากำลังเป็นภัยคุกคามที่ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งสหภาพยุโรปและจีนต่างเน้นย้ำความสนับสนุนต่อสนธิสัญญากรุงปารีสเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และการยึดมั่นกับข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่าน ซึ่งล้วนแตกต่างจากจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสีได้เดินทางเยือนอิตาลีและโมนาโก โดยอิตาลีได้ลงนามเข้าร่วมโครงการ “หนึ่งถนน-หนึ่งวงแหวน” ของจีน และได้มีการจัดทำข้อตกลงการค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับบริษัทเครื่องบินแอร์บัสของฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มผู้ประท้วงในหลายประเทศที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนในครั้งนี้ โดยเฉพาะในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและการจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน
คุณเซดริก อัลวิอานี ผอ.ฝ่ายเอเชียตะวันออกขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ซึ่งกล่าวหาจีนเรื่องการปิดกั้นเสรีภาพของสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียกร้องให้ประชาคมโลกช่วยกันตรวจสอบจีนในเรื่องนี้
คุณอัลวิอานี กล่าวว่า สิ่งที่คาดหวังจากรายงานชิ้นนี้ คือการที่ผู้สื่อข่าวทั่วโลกได้ร่วมมือกันเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของรัฐบาลจีนที่มีต่อเมืองหรือประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ และว่า โครงการ “หนึ่งถนน-หนึ่งวงแหวน” คือเครื่องมือสำคัญของปักกิ่งในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก
(ผู้สื่อข่าว Lisa Bryant รายงานจากกรุงปารีส / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)