'จีน-ฝรั่งเศส-อียู' ร่วมแสดงจุดยืนต่อต้านแนวคิดปกป้องผลประโยชน์ฝ่ายเดียว

French President Emmanuel Macron, German Chancellor Angela Merkel and Chinese President Xi Jinping leave following a meeting at the Elysee Palace in Paris, France, March 26, 2019.

Your browser doesn’t support HTML5

France China Meeting

ผู้นำสหภาพยุโรปร่วมประชุมกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ที่กรุงปารีส เพื่อแสดงจุดยืนเรื่องความร่วมมือแบบหลายชาติ ในการจัดการกับปัญหาต่างๆ ตั้งแต่การสร้างสันติภาพและความมั่นคง ไปจนถึงการค้าและการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

การประชุมที่กรุงปารีสในวันอังคาร ระหว่างผู้นำสหภาพยุโรปกับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมสุดยอด EU-China ในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดยในฝั่งยุโรปนั้น นอกจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง ยังมีนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกล่า เมอร์เคิล และประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป ฌอง-คล้อด ยุงเคอร์ เข้าร่วมประชุมด้วย

ประธานาธิบดีมาคร็อง จัดประชุมแถลงข่าวหลังการเจรจา เน้นย้ำความร่วมมือระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นสองระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกเหนือจากสหรัฐฯ

นอกจากนี้ผู้นำฝรั่งเศสยังระบุถึงความร่วมมือในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และการพัฒนาเศรษฐกิจและความมั่นคงในแอฟริกา

ประธานาธิบดีมาคร็อง กล่าวด้วยว่า ทั้งจีนและฝรั่งเศสต่างต้องการให้มีการสร้างระบบการจัดทำความร่วมมือแบบหลายประเทศขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีความสมดุลมากกว่าเดิม

ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า เวลานี้โลกกำลังเผชิญความท้าทายหลายประการ ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงคือกุญแจสำคัญในการรับมือความท้าทายเหล่านั้น

ผู้นำจีนยังได้ระบุถึงแนวคิดปกป้องผลประโยชน์ในประเทศและการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวว่ากำลังเป็นภัยคุกคามที่ขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งสหภาพยุโรปและจีนต่างเน้นย้ำความสนับสนุนต่อสนธิสัญญากรุงปารีสเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และการยึดมั่นกับข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่าน ซึ่งล้วนแตกต่างจากจุดยืนของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสีได้เดินทางเยือนอิตาลีและโมนาโก โดยอิตาลีได้ลงนามเข้าร่วมโครงการ “หนึ่งถนน-หนึ่งวงแหวน” ของจีน และได้มีการจัดทำข้อตกลงการค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับบริษัทเครื่องบินแอร์บัสของฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มผู้ประท้วงในหลายประเทศที่ผู้นำจีนเดินทางเยือนในครั้งนี้ โดยเฉพาะในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนและการจำกัดเสรีภาพของสื่อมวลชน

คุณเซดริก อัลวิอานี ผอ.ฝ่ายเอเชียตะวันออกขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ซึ่งกล่าวหาจีนเรื่องการปิดกั้นเสรีภาพของสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียกร้องให้ประชาคมโลกช่วยกันตรวจสอบจีนในเรื่องนี้

คุณอัลวิอานี กล่าวว่า สิ่งที่คาดหวังจากรายงานชิ้นนี้ คือการที่ผู้สื่อข่าวทั่วโลกได้ร่วมมือกันเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของรัฐบาลจีนที่มีต่อเมืองหรือประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ และว่า โครงการ “หนึ่งถนน-หนึ่งวงแหวน” คือเครื่องมือสำคัญของปักกิ่งในการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองออกไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก

(ผู้สื่อข่าว Lisa Bryant รายงานจากกรุงปารีส / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)