“อาหารช่วยปรับอารมณ์” นำเทรนด์อาหารแห่งปี 2020

The completed plant-based hamburger is displayed during a media tour of Impossible Foods labs and processing..

Your browser doesn’t support HTML5

Food Trend

ก่อนเข้าสู่ปี ค.ศ. 2020 หรือ พ.ศ. 2563 ใครที่อยากเริ่มต้นด้วยสิ่งใหม่ เรามีเทรนด์อาหารแห่งปีส่งตรงจากเตาร้อนๆ มาฝากกัน

เจนนี เซคเลอร์ หัวหน้าฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มของบริษัท Mintel และไมค์ คอสท์โย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์จาก Datassential ร่วมกันฟันธงเทรนด์อาหารแห่งปี 2020 กัน

โปรตีนจากพืชยังคงเป็นกระแสนิยมต่อเนื่องในปี 2020 โดยเซคเลอร์ บอกว่า ความนิยมในเมนูโปรตีนจากพืชจะไปไกลกว่ากลุ่มมังสวิรัติและคนกินเจแบบวีแกนสายเคร่ง เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มใส่ใจที่จะนำโปรตีนจากพืชมาใส่จานอาหารของตน ทั้งเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายและความอยากรู้อยากลองเมนูใหม่ๆ โดยคาดว่าเมนูโปรตีนจากพืชจะกลายเป็นอาหารกระแสหลักมากขึ้นในปี 2020

ในอีกด้านหนึ่ง คอสท์โย จาก Datassential มองว่า ผู้บริโภคบางกลุ่มเริ่มตั้งคำถามถึงคุณประโยชน์ของเมนูบางชนิดที่ใช้โปรตีนทางเลือก อย่างแฮมเบอร์เกอร์เนื้อเทียม ว่ามีประโยชน์ทัดเทียมเบอร์เกอร์เนื้อจริงหรือไม่ แต่ในภาพรวมแล้วเมนูโปรตีนพืช รวมทั้งดอกกะหล่ำและกะหล่ำดาว จะยังอินอยู่ในศักราชใหม่นี้ได้ เห็นได้จากร้านอาหารมากมายทยอยเพิ่มเมนูที่เป็นมังสวิรัติมากขึ้น

ผู้บริโภคอยากรู้จักเส้นทางของอาหารที่ยั่งยืน เพราะ “อาหารที่ดีควรมีสตอรี่” โดยเฉพาะปัจจุบันที่นักกินห่วงใยสิ่งแวดล้อมและปัญหาการทารุณสัตว์มากขึ้น และจะเริ่มตั้งคำถามกลับมายังนักปรุงอาหารว่าส่วนผสมและวัตถุดิบแต่ละอย่างนั้นมีที่มาอย่างไรและเป็นเส้นทางอาหารที่ยั่งยืนหรือไม่

หัวหน้าฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มของบริษัท Mintel มองว่า ร้านอาหารและบริษัทต่างๆ ต้องใส่ใจที่จะให้รายละเอียดไปถึงคุณค่าของอาหารที่ลูกค้าจะช่วยพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนได้แค่ไหน เพิ่มเติมจากคุณค่าทางโภชนาการที่จะได้รับ แต่ก็อย่าลืมสิ่งสำคัญ คือ รสชาติที่ดีและราคาที่เหมาะสม

อาหารจากแอฟริกาใต้ วิ่งเข้าเส้นชัยเทรนด์อาหารปี 2020 โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์จาก Datassential มองว่า เมนูที่มาจากแอฟริกาใต้ ครอบคลุมตั้งแต่ไวน์ เนื้อแดดเดียว ที่เรียกว่า biltong และเนื้อบาร์บีคิว ที่เรียกว่า braai จะเป็นเมนูแห่งปีใหม่ที่พูดถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่โลกเปิดกว้างให้ได้รู้จักอาหารจากอีกซีกโลก และอาหารแอฟริกาใต้ก็เป็นอีกกระแสสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากรู้อยากลองอาหารต่างชาติที่ไม่ใช่ ซูชิ กิมจิ ที่คุ้นเคยอีกต่อไป

อาหารช่วยปรับอารมณ์ ก็เป็นอีกกระแสนิยมในปี 2020 เช่นกัน เซคเลอร์ อธิบายว่า ผลิตภัณฑ์อาหารที่มุ่งเน้นสุขภาพสมองและภาวะอารมณ์จะได้รับความสนใจอย่างมาก ผู้คนมองหาเครื่องปรุงและส่วนผสม ที่ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ช่วยปรับอารมณ์ และช่วยให้ผ่อนคลาย อย่างที่นักโภชนาการหลายท่าน เห็นว่า ขมิ้นและคาโมมายล์ จะช่วยลดความวิตกกังวลได้ ส่วนบลูเบอร์รีและช็อคโกแลต จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น

หัวหน้าฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มของบริษัท Mintel บอกอีกว่า ยิ่งในปี 2020 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สุดเข้มข้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องให้มีความสงบและผ่อนคลายอารมณ์ออกมาขายทั่วบ้านทั่วเมือง แม้แต่สีแพนโทนแห่งปี 2020 ยังลดความร้อนแรงจากสี Coral เมื่อปี 2019 มาเป็น Classic Blue ที่สงบเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด และจะเห็นสัญญาณในการดับความร้อนระอุทางอารมณ์ออกมาอีกมากมายในศักราชใหม่นี้

เทรนด์ส่งอาหารทันใจจะมาแรงต่อเนื่อง ในมุมมองของ คอสท์โย อธิบายว่า ธุรกิจอาหารจะปรับเมนูอาหารที่ง่ายขึ้นและใช้วัตถุดิบที่เตรียมไว้ล่วงหน้ามากขึ้น จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ เพื่อให้สอดรับกับจำนวนแรงงานที่ลดลงในอุตสาหกรรม จากปัญหาขาดแคลนแรงงานในธุรกิจร้านอาหาร และต้องทำอาหารที่รองรับกับการส่งอาหารถึงที่มากขึ้น

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Technomic เมื่อปี 2018 เปิดเผยว่า ผู้บริโภคยอมจ่ายค่าส่งอาหาร 10,200 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 42% จากปี 2017 ดังนั้น เมนูอาหารที่ยังดูน่ากิน แม้จะต้องใช้เวลาส่งถึงบ้านประมาณ 30 นาที จะกลายเป็นเมนูที่อินเทรนด์ในปี 2020 อย่างแน่นอน

ส่งท้ายด้วย เทรนด์แห่งชา ที่ยังไม่ซาไปในปี 2020 เพราะคอสท์โย บอกว่า ร้านกาแฟต่างชูนวัตกรรมเครื่องดื่มชาที่มีจุดเด่นกันมากขึ้น ข้อมูลจาก Datassential บอกว่า ร้านกาแฟต่างๆจะเริ่มมีบาริสตาที่พร้อมจะบรรยายที่มาที่ไปและรสชาติของชา ซึ่งอาจจะเหมือนกับการสร้างประสบการณ์ในพิธีชงชาเขียวมัตฉะของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านธุรกิจ Technomic ฟันธงเลยว่า Asian cheese tea หรือ ชาจากเอเชียที่ใส่ครีมชีสเข้าไป เช่นเดียวกับชาดอกอัญชันที่มีความซับซ้อนของสีสัน จะกลายเป็นเทรนด์ใหม่แห่งปี 2020 ด้วยเช่นกัน