สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สื่อโทรทัศน์ของทางการเมียนมารายงานว่า กองทัพเมียนมาได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตไลง์ตายา หลังจากมีรายงานว่ามีผู้ประท้วงถูกสังหารอย่างน้อย 39 คนในวันอาทิตย์
ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นเมียนมารายงานว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของเมียนมาสังหารผู้ประท้วงอย่างน้อย 22 คน ในเขตไลง์ตายา ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมชานเมืองย่างกุ้ง นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่ทั่วประเทศรวมอย่างน้อย 16 คน
รายงานระบุว่า มีชายผู้หนึ่งถูกยิงเสียชีวิตมี่เมืองบาโก ไม่ไกลจากย่างกุ้ง ขณะที่สื่อ Kachin Wave รายงานว่ามีผู้ประท้วงเสียชีวิตอีกหนึ่งรายที่เมืองพากัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ซึ่งมีเหมืองแร่หยกขนาดใหญ่
สื่อโทรทัศน์ของทางการเมียนมารายงานด้วยว่า มีตำรวจเสียชีวิตหนึ่งรายระหว่างการปราบปรามผู้ประท้วงในวันอาทิตย์ ซึ่งถือเป็นวันที่มีการนองเลือดมากที่สุดในเมียนมานับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ด้านสถานทูตจีนประจำเมียนมาออกมาเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของพลเมืองชาวจีนในเมียนมา หลังจากที่มีรายงานว่าโรงงานทอผ้าของจีนสองแห่งถูกจุดไฟเผา
การประท้วงในเมียนมายังคงดุเดือดและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางออง ซาน ซูจี ถูกทหารยึดอำนาจเมื่อหกสัปดาห์ก่อน นำไปสู่การเดินขบวนและการประท้วงหยุดงานทั่วประเทศ ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 80 ราย และถูกจับกุมมากกว่า 2,100 คน อ้างอิงจากข้อมูลของสมาคมเพื่อความช่วยเหลือนักโทษการเมือง (Assistance Association for Political Prisoners)
มาน วิน เกียง ตาน รักษาการผู้นำรัฐบาลคู่ขนานของเมียนมา กล่าวต่อประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ก ในวันเสาร์ โดยบอกว่า “เวลานี้คือช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเมียนมา” และว่า รัฐบาลพลเรือนของเมียนมาขอมอบสิทธิให้แก่ประชาชนในการปกป้องตนเอง
ขณะที่เมืองโมนีวาในแถบตอนกลาง มีการประกาศจัดตั้งรัฐบาลท้องถิ่นและกองกำลังตำรวจชั่วคราวขึ้นมาในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤตินี้