ในวันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายมีชัย

  • Michael Bowman
    Jim Malone
    Cindy Saine
    Nittaya Maphungphong

ในวันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าพรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายมีชัย

ในวันสุดท้ายก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองคาดว่า พรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายมีชัย จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และแม้อาจจะไม่ได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่ก็จะได้เสียงเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่แล้วอย่างแน่นอน แต่นักวิเคราะห์บางรายให้ความเห็นว่า ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะไม่พอใจกับการทำงานของสมาชิกรัฐสภาจากทั้งสองพรรค

ในวันสุดท้ายก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ ผู้เชี่ยวชาญการเมืองคาดว่า พรรครีพับลิกันจะเป็นฝ่ายมีชัย จะได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และแม้อาจจะไม่ได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา แต่ก็จะได้เสียงเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่แล้วอย่างแน่นอน

ความสนใจของคนอเมริกันและนักวิเคราะห์สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ อยู่ตรงที่ว่า พรรคใดจะได้เสียงข้างมากในรัฐสภา ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อการทำงานของประธานาธิบดี Barack Obama ในช่วงเวลาอีกสองปีที่เหลืออยู่ ก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีค.ศ. 2012

พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งและได้เสียงข้างมากในทั้งสองสภามาตั้งแต่ปี 2006 แต่ถ้าพรรครีพับลิกันได้เสียงข้างมากในทั้งสองสภา หรือแม้กระทั่งสภาเดียว ก็จะสามารถสะกัดกั้นโครงการและนโยบายต่างๆของฝ่ายบริหาร รวมทั้งนโยบายต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดี Obama ออกหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคเดโมแครตตามรัฐต่างๆ รวมทั้งรัฐ Ohio เรียกร้องให้ผู้ที่เคยให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อสองปีก่อน ต่อสู้ต่อไป และให้ชักชวนเพื่อนพ้องเข้าร่วมการรณรงค์ด้วย

ศาสตราจารย์ Larry Sabato ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเมืองสหรัฐของมหาวิทยาลัย Virginia ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจถดถอยของประเทศ เปิดทางให้กับพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งครั้งนี้

นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ดูทีท่าว่า 39 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรที่ฝ่ายรีพับลิกันต้องการเพื่อจะให้มีเสียงข้างมากนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เวลานี้ ดูพรรครีพับลิกันจะสามารถยึดสภาคืนมาได้อย่างสบายๆ

ผลการสำรวจทัศนคติของผู้ที่คาดว่าจะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน

อดีตประธานาธิบดี Bill Clinton ซึ่งออกหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรคเดโมแครต พยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงด้วยเหตุผลที่ว่า ทางฝ่ายรีพับลิกันได้ใช้เวลานานถึง 8 ปี ทำให้ประเทศต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบาก และเรียกร้องให้ประชาชนให้โอกาสพรรคเดโมแครตครบสี่ปี เพื่อแก้ปัญหา

ทางฝ่ายรีพับลิกันกล่าวว่า ประชาชนหมดความอดทนที่จะรออีกต่อไป และอดีตผู้ว่าการรัฐ Alaska นาง Sarah Palin กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงจะแสดงความเห็นของพวกตนอย่างชัดเจนให้ประธานาธิบดี Obama ได้รับทราบว่า ทำงานไม่สำเร็จ หลังจากที่ได้ให้โอกาสมาเป็นเวลาสองปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในการเลือกตั้งในสหรัฐครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ และ นักวิเคราะห์ Michelle Bernard ของสถาบันวิจัย Women’s Forum ยืนยันผลการสำรวจความคิดเห็นของสถาบันที่พบว่า ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงอิสระ ไม่พอใจทั้งสองพรรค

นักวิเคราะห์ผู้นี้เปรียบการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นเสมือนการประกวดนางงามที่ไม่มีผู้สมัครสะสวยเลยแม้แต่คนเดียว และให้มองว่า จะเป็นการลงคะแนนเสียงที่แสดงความคิดเห็นคัดค้านการทำงานของรัฐบาลและผู้ที่อยู่ในรัฐสภา ซึ่งหมายถึงพรรคเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ มิใช่เป็นการลงคะแนนเสียงให้พรรครีพับลิกัน