นายแพทย์ แอนโธนี ฟาวชี ผอ.สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อของสหรัฐฯ กล่าวเตือนในวันอาทิตย์ว่า หากสหรัฐฯ เริ่มให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดตามปกติในวันที่ 1 พ.ค. ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไว้ อาจสร้างความเสี่ยงใหญ่หลวงที่จะมีการระบาดของโคโรนาไวรัสครั้งใหญ่ไปทั่วประเทศจนเกินการควบคุม
น.พ.ฟาวชี กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นเหมือนการเปิดสวิทช์ไฟ ที่ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดบริการได้ทันทีหลังวันที่ 30 เมษายน แต่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้คนสามารถกลับมาใช้ชีวิตหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตาม แต่ละพื้นที่ในอเมริกาจะมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อ และอัตราส่วนการตรวจพบเชื้อ
ปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกา อยู่ที่ระดับประมาณ 550,000 คน เสียชีวิตแล้วราว 22,000 คน ซึ่งทางรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าภายในเดือนกรกฎาคม จำนวนผู้เสียชีวิตในอเมริกาอาจสูงถึง 60,000 คน
ด้านนายสตีเฟน ฮาห์น ผอ.สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ กล่าวว่า ข้อมูลจากกราฟแสดงให้เห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในอเมริกาใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ และการจะเปิดภาคธุรกิจในวันที่ 1 พ.ค. นี้ก็จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายดังกล่าวได้หรือไม่
ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ กล่าวแทบทุกวันระหว่างการแถลงข่าวว่า ตนต้องการให้ภาคธุรกิจกลับมาเปิดทำงานอีกครั้งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งบรรดาที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจต่างแนะนำว่าเป็นวันที่ 1 พ.ค. แต่ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะรับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณุสขเท่านั้น