Your browser doesn’t support HTML5
หลังจากที่มีข่าวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เรื่องการนำข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้ Facebook ไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง จนบริษัทเผชิญกับการตรวจสอบครั้งใหม่ทั้งในอังกฤษและสหรัฐฯ หลายคนสงสัยว่าพฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์เปิดเผยความเป็นตัวเราในด้านใดบ้าง
ล่าสุดคำถามนี้ถูกมองในบริบทเรื่องการคาดเดาทัศนะทางการเมือง เพราะ Facebook พัวพันกับข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทที่ปรึกษาของอังกฤษ 'เคมบริดจ์ อนาไลติกา' (Cambridge Analytica) รวบรวมและแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ Facebook หลายสิบล้านคน โดยไม่ได้รับอนุญาต และจากนั้นนำข้อมูลไปประมวลผล เพื่อการรณรงค์ทางการเมือง ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปีเดือนพฤศจิกายนสองปีก่อน
การศึกษาเมื่อปี ค.ศ. 2013 ในงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุว่า ข้อมูลพฤติกรรมการกด Like บน Facebook สามารถบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ทางเพศ ชาติพันธุ์และข้อมูลส่วนตัวด้านอื่นๆ
นักวิจัยยังสามารถเดาได้ถึง อายุ ระดับสติปัญญา และความเห็นด้านการเมือง และความเชื่อทางศาสนาได้ด้วย
นอกจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า Like ยังบอกได้ถึงอารมณ์ของผู้ใช้ ว่ามีความสุขอยู่หรือไม่ และมีความเสี่ยงต่อการใช้สารเสพติดหรือไม่
และหากอยากทราบถึง สภาพการหย่าร้างของบิดามารดาผู้ใช้ Like เหล่านี้อาจใช้เป็นข้อมูลดิบเพื่อวิเคราะห์ความเป็นส่วนตัวที่ลึกระดับนั้นได้
ในเรื่องการคาดเดาระดับสติปัญญา นักวิจัยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ดู Like และเปรียบเทียบข้อมูลจนสามารถเจาะลึกถึงรูปแบบพฤติกรรมที่ซ้ำๆ จนพวกเขาพบความเชื่อมโยงระหว่างการ Like มันฝรั่งทอดแบเกลียว หรือ curly fries กับระดับสติปัญญาที่สูง
และถ้าใครมีพฤติกรรมการใช้ Facebook ที่สืบได้ว่า ชอบการ์ตูนแมวญี่ปุ่น Hello Kitty คุณอาจถูกวิเคราะห์ว่ามีความเปิดกว้างทางทัศนะคติ ทั้งยังมีความเป็นไปได้มากกว่าปกติที่จะมีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน และสนับสนุนค่านิยมของพรรคเดโมแครต
เมื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล Like แล้ว หลายคนจึงบอกว่า ผู้ที่เข้าถึงข้อมูล Facebook ของเรา อาจจะรู้ถึงความเป็นเราได้ดีกว่าคู่สมรสเสียอีก
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของห้องข่าววีโอเอ)