สื่อสังคมออนไลน์ เฟสบุ๊ค พร้อมขึ้นป้ายแนะนำข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับวัคซีนต้านโควิด-19 สำหรับโพสต์ข้อความที่เกี่ยวข้อง ขณะที่รายงานข่าวระบุว่า สถานการณ์การระบาดในบางพื้นที่ริ่มกลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ค เปิดเผยผ่านบล็อกของตนว่า ทางบริษัทจะเริ่มขึ้นป้ายที่โพสต์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัคซีน และถูกจัดว่า “มีข้อมูลอันน่าเชื่อถือ” จากองค์การอนามัยโลกแล้ว พร้อมระบุว่า “จะมีการขึ้นป้ายสำหรับโพสต์ที่มีการถกประเด็นเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีการย้ำว่า วัคซีนนั้นจะต้องผ่านกระบวนการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลก่อนที่จะได้รับอนุมัติด้วย”
ที่ผ่านมา เฟสบุ๊คมักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ประสบความล้มเหลวในการจัดการกับข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เฟสบุ๊ค ยืนยันด้วยว่า จากนี้ไป จะพยายามนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเข้ารับวัคซีนให้กับผู้ใช้งานของตนด้วย
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย ดุ๊ค ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ของสหรัฐฯ ประกาศดำเนินมาตรการล็อคดาวน์สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งหมดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เนื่องจากอัตราระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นในหมู่นักศึกษาของตน ที่มีสาเหตุหลักมาจากการจัดงานปาร์ตี้ของกลุ่มต่างๆ
และแม้จะมีการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่ นายแพทย์ แอนโธนี เฟาชี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่า สถานการณ์ในสหรัฐฯ เริ่ม “ไปในทิศทางที่ถูกต้อง” แล้ว หลังประชาชนชาวอเมริกันหลายล้านคนได้รับวัคซีนไป
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ “Meet the Press” ทางสถานีโทรทัศน์ NBC นพ.เฟาชี่ เตือนว่า ถ้าหากมีภาวการณ์ระบาดที่นิ่งเป็นระยะเวลาหนึ่ง ที่ราว 60,000 คนต่อวัน อาจมีความเสี่ยงของการพุ่งขึ้นในรอบใหม่ได้ เนื่องจาก มีการลดระดับการดำเนินมาตรการระวังภัยต่างๆ ดังเช่นที่เกิดขึ้นในอิตาลี ที่เพิ่งสั่งดำเนินการล็อคดาวน์รอบใหม่ในวันจันทร์อีกครั้ง
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีสถิติผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก ที่ กว่า 29,400,000 คนและ กว่า 535,000 คนตามลำดับ ตามข้อมูลของ มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น