สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหล่านักเรียนแพทย์ แพทย์ที่เกษียณแล้ว เภสัชกร และทหารกำลังถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมทำงานระดมนำวัคซีนต้านโควิด-19 ไปสู่ประชาชนทั่วยุโรป โดยตั้งเป้าว่าจะเริ่มโครงการหลังวันคริสต์มาสนี้
สหภาพยุโรป หรือ EU เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มในวันที่ 27 ธันวาคม เป็นเวลาสี่วันนับจากวันที่คาดว่าทางการยุโรปจะอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) และบริษัทไบโอเอนเท็ค (BioNTech) ในขณะที่เชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังคงระบาดหนักจนมีผู้เสียชีวิตในยุโรปแล้วเกือบ 500,000 คน
ทั้งนี้ ทางโครงการเตรียมให้วัคซีนครั้งใหญ่แก่ประชาชนในโรงพยาบาล บ้านพักคนชรา รวมทั้งหอกีฬาและศูนย์ประชุมที่ว่างลงจากมาตรการปิดเมืองเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัส
ในขณะที่ผลการสำรวจความเห็นหลายสำนักจะระบุว่า ชาวยุโรปจะไม่ไว้ใจวัคซีนที่ถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลของประเทศยุโรปก็เดินหน้าผลักดันการให้ข้อมูลเรื่องวัคซีนแก่ประชาชนมากขึ้น
ที่อิตาลี จะมีการจัดเตรียมซุ้มให้บริการทางสุขภาพชั่วคราวในจัตุรัสกลางเมืองทั่วประเทศ โดยซุ้มพลังงานแสงอาทิตย์นี้ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกพริมโรสห้ากลีบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ โดยสเตฟาโน โบเอริ สถาปนิกผู้ออกแบบซุ้มดังกล่าว อธิบายว่า ซุ้มนี้สื่อความหมายถึงความราบรื่นและการฟื้นฟู เหมือนวัคซีนที่ทำให้ผู้คนกลับมาเข้าสังคมได้อีกครั้ง
ประเทศยุโรปหลายประเทศรับสมัครบุคลากรด้านสาธารณสุขที่กำลังขาดแคลน หลายรัฐของประเทศเยอรมนีรับสมัครแพทย์เกษียณและแพทย์สังกัดบริษัทต่างๆ ให้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยผู้เข้าร่วมโครงการอาจได้รับค่าตอบแทนสูงถึงชั่วโมงละ 140 ยูโร หรือราว 5,118 บาท
ทั้งนี้ บุคลากรด้านสาธารณสุขที่ทำงานด่านหน้าและผู้พักอาศัยในบ้านพักคนชราจะได้รับวัคซีนดังกล่าวก่อน โดยคาดว่าประชาชนทั่วไปจะยังคงไม่ได้รับวัคซีนจนกว่าจะหมดไตรมาสแรกของปีหน้า
Nurses simulate the administration of the Pfizer-BioNTech coronavirus vaccine, during a staff training session ahead of the vaccine's rollout next week, at the Royal Free Hospital in London on December 4, 2020. - Britain insisted Friday its world-first ap
EU ตั้งเป้าให้ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากร 450 ล้านคนใน 27 ประเทศสมาชิกได้รับวัคซีน โดยคณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้มีความร่วมมือการฉีดวัคซีนข้ามพรมแดน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง EU ประสบปัญหาในการเรียกร้องความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก
ทางฝั่งอังกฤษ ที่มีกำหนดออกจาก EU ในสิ้นปีนี้เป็นประเทศแรกที่เริ่มให้วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค โดยอนุมัติวัคซีนดังกล่าวเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ทางการอังกฤษระบุว่า ประชาชนเกือบ 140,000 คนได้รับวัคซีนภายในสัปดาห์แรกหลังมีการฉีดวัคซีน และกำลังดำเนินการอนุญาตให้พยาบาลผดุงครรภ์ นักกายภาพบำบัด เภสัชกร และบุคลากรที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้สามารถทำวัคซีนแก่ประชาชนได้ เพื่อให้มีบุคลากรทำวัคซีนอย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ กฎการฉีดวัคซีนในแต่ละประเทศยุโรปนั้นต่างกันออกไป เช่น การทำวัคซีนในฝรั่งเศสจะต้องทำโดยมีแพทย์อยู่ด้วย ส่วนในเยอรมนี การทำวัคซีนสามารถกระทำโดยผู้อื่นได้หากผู้รับวัคซีนปรึกษากับแพทย์ก่อน
อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลเช่นกันว่ากฎระเบียบการรักษาระยะห่างทางสังคมรวมถึงระเบียบเอกสารต่างๆ อาจทำให้การทำวัคซีนในสถานที่สาธารณะเกิดการติดขัดได้
ประเทศยุโรปต่างๆ ต่างเดินหน้าสำหรับการเตรียมให้วัคซีนครั้งใหญ่ เช่น โปรตุเกสเตรียมสถานที่เก็บวัคซีนแบบเย็นจัดที่หมู่เกาะอะโซเรสและหมู่เกาะมาเดราในมหาสมุทรแอตแลนติค นอร์เวย์ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิก EU เตรียมซื้อวัคซีนจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างสวีเดน สวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีเตรียมอุปกรณ์ให้วัคซีน ในขณะที่กองป้องกันสหพันธ์ของเยอรมนีก็เตรียมพร้อมช่วยเหลือการทำวัคซีนหากมีการต้องการความช่วยเหลือในระดับภูมิภาค