หลังอัตราการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรือ อียู เริ่มลดความรุนแรงลง รัฐมนตรีอียูเริ่มเดินหน้าหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการออกเอกสารการเดินทางใหม่ที่จะยืนยันการฉีดวัคซีนโควิดครบโดสแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในภูมิภาคอย่างสะดวก ในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง
การประชุมของรัฐมนตรีอียูที่จัดขึ้นในวันอังคารนี้ มีเป้าหมายที่จะหาวิธีส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศสมาชิก พร้อมโน้มน้าวประเทศต่างๆ ไม่ให้ดำเนินมาตรการจำกัดเข้มงวดเพิ่มเติม หากมีการอนุมัติการออกเอกสาร Green Certificate หรือ ใบรับรองสีเขียว ที่คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป นำเสนอให้มีการนำมาใช้ตั้งแต่ต้นปี โดยอ้างอิงรูปแบบตามนโยบาย Green Pass ของอิสราเอล ที่อนุญาตให้ผู้ถือเอกสารนี้สามารถเข้าพื้นที่หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสะดวก
สำหรับในยุโรปนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ แนะนำให้ออกเอกสารนี้สำหรับผู้ที่มีถิ่นพำนักในอียู ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว รวมทั้ง ผู้ที่มีผลตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส หรือมีเอกสารยืนยันว่าหายป่วยจากโควิด-19 แล้ว เพื่อที่จะได้เดินทางไปในพื้นที่ของประเทศสมาชิกได้อย่างอิสระ
ทั้งนี้ สภายุโรปตั้งความหวังไว้ว่า จะผลักดันให้มีการใช้เอกสารดังกล่าว โดยประเทศสมาชิกทั้งหลายจะไม่ออกมาตรการพิเศษเพิ่มสำหรับตัวผู้ถือเอกสาร เช่น การบังคับให้ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการ การเข้ารับการทดสอบการติดเชื้อ หรือการแยกตัวออกมาดูอาการ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนโยบายการควบคุมพรมแดนนั้นเป็นเรื่องของสิทธิ์ตามอธิปไตยของแต่ละประเทศอยู่ การบรรลุข้อตกลงเพื่อดำเนินนโยบายการออกเอกสารนี้ยังคงต้องเผชิญอุปสรรคอีกมากมาย
German Deputy Foreign Minister Michael Roth speaks to the media on detained German-Turkish journalist Deniz Yucel, in Istanbul, April 4, 2017.
ไมเคิล รอธ รัฐมนตรีกิจการยุโรปของเยอรมนี บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนเข้าร่วมประชุมว่า การหาทางออกเกี่ยวกับนโยบายเอกสารการเดินทางดังกล่าว “มีความสำคัญอย่างยิ่ง” และว่า “ประเด็นนี้ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับคนไม่กี่คน แต่สำหรับทุกคน เพราะจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า ทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ และจะเป็นการส่งสัญญาณอันชัดเจนเกี่ยวกับอิสรภาพของการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานและการเดินทางในสหภาพยุโรปด้วย”
ขณะเดียวกัน เคลมองต์ โบน รัฐมนตรีกิจการยุโรปของฝรั่งเศส แสดงความมั่นใจว่า อียู จะหาทางออกในเรื่องนี้ได้ในที่สุด พร้อมย้ำว่า การประสานงานกันในกลุ่มประเทศสมาชิกเพื่อสู้กับโควิด-19 มีความสำคัญอย่างมากก่อนที่ฤดูร้อนจะเริ่มต้นขึ้น
คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่า ราว 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรอียูที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่จะได้รับวัคซีนครบโดสก่อนฤดูร้อนปีนี้จะหมดลง โดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของยุโรป รายงานในวันอังคารว่า ณ เวลานี้ ประชากรกลุ่มดังกล่าวประมาณเกือบ 32 เปอร์เซ็นต์ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส