ธนาคารกลางยุโรปประกาศเริ่มโครงการซื้อพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางยุโรปประกาศเริ่มโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งจะยับยั้งภาวะเงินฝืด และส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศภาคีของสหภาพยุโรป (EU) ทั้ง 19 ประเทศ

Your browser doesn’t support HTML5

EU Central Bank

นาย Mario Draghi ผู้ว่าการธนาคารกลางของยุโรป (ECB) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าจะอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือมากกว่านั้น ให้กับระบบเศรษฐกิจของ EU โดยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเป็นมูลค่าราวๆ เจ็ดหมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ศกนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน ศกหน้า

ผู้ว่าการธนาคารกลางของยุโรปมั่นใจว่ามาตรการที่นำมาใช้จะได้ผล และจะเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ สำหรับความคาดหมายในระยะกลาง และกระตุ้นเศรษฐกิจของ EU ได้

มาตรการดังกล่าวมุ่งหมายจะสนับสนุนให้ธนาคารต่างๆ ในเขตเงินยูโร ปล่อยเงินกู้ให้มากขึ้น ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง โดยคาดว่าจะผลักดันให้ธุรกิจและผู้บริโภคกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายมากขึ้น

ECB กำหนดเป้าอัตราเงินเฟ้อไว้ว่า อยากจะให้เพิ่มขึ้นจากที่ต่ำกว่าศูนย์ในเดือนที่แล้ว มาเป็นเกือบสองเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังจะลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินที่ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ยืมด้วย อัตราการว่างงานใน EU เวลานี้สูง 11.5%

โครงการซื้อพันธบัตรเพื่ออัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจนี้ เรียกว่า Quantitative Easing (QE) ซึ่งสหรัฐและอังกฤษนำไปใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของตน ที่ประสบภาวะถดถอยเพราะวิกฤติการเงินโลกอย่างได้ผล

แต่ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป กล่าวเตือนว่า สิ่งที่นโยบายการเงินทำได้ คือสร้างพื้นฐานสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งต้องอาศัยการลงทุน ความเชื่อมั่น และการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจ จึงจะได้ผล

ปฏิกิริยาต่อมาตรการนี้มีต่างๆ กัน นักวิเคราะห์บางรายเห็นว่านำมาใช้ช้าเกินไป บ้างไม่คิดว่า ธุรกิจและผู้บริโภคจะเพิ่มการใช้จ่าย และก็มีที่เกรงว่า การอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ จะทำให้ภาคี EU บางประเทศไม่สนใจที่จะปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจของตน