นักวิจารณ์ขอให้รัฐบาลสหรัฐยุตินโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงเอธานอลมูลค่า $6 พันล้าน

  • Steve Baragona
    ทรงพจน์ สุภาผล

นักวิจารณ์ขอให้รัฐบาลสหรัฐยุตินโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงเอธานอลมูลค่า $6 พันล้าน

ปัญหาราคาอาหารแพงและหนี้ภาครัฐในสหรัฐส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงนโยบายด้านพลังงานของรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานบางคนกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลยุตินโยบายอุดหนุนการผลิตเชื้อเพลิงเอธานอลจากข้าวโพดซึ่งมีมูลค่า 6 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี

ปัจจุบัน คนอเมริกันใช้เชื้อเพลิงจากเอธานอลคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในรถยนต์ทั้งหมดทั่วสหรัฐ โดยเชื้อเพลิงเอธานอลเกือบทั้งหมดในสหรัฐผลิตจากข้าวโพด

ตามกฎหมายที่เริ่มใช้เมื่อ 4 ปีที่แล้วกำหนดให้น้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐต้องผสมเชื้อเพลิงที่สามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ และบริษัทพลังงานที่นำเอธานอลมาผสมในน้ำมันจะได้รับผลประโยชน์ลดหย่อนภาษีคิดเป็นมูลค่ารวม 6 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี ส่งผลให้มีการผลิตเชื้อเพลิงเอธานอลจากข้าวโพดเพิ่มขึ้นมาก

อาจารย์ Wally Turner แห่งภาควิชาเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัย Purdue ชี้ว่าปริมาณการผลิตเชื้อเพลิงเอธานอลจากข้าวโพดเพิ่มขึ้นจาก 5% ของผลผลิตข้าวโพดในสหรัฐทั้งหมดเป็นเกือบ 40%ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สูงมาก ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวโพดในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 77% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศและความต้องการที่สูงขึ้นทั่วโลก

กลุ่ม ActionAid คือหนึ่งใน 90 องค์กรที่มีจดหมายถึงรัฐสภาสหรัฐ เรียกร้องให้ยุตินโยบายลดหย่อนภาษีแก่อุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงจากเอธานอลในช่วงที่รัฐบาลต้องการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายเช่นนี้ คุณ Marie Brill แห่งกลุ่ม ActionAid ชี้แจงว่าขณะนี้อุตสาหกรรมผลิตเชื้อเพลิงเอธานอลสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้เองแล้ว รัฐบาลจึงควรยกเลิกการอุดหนุนด้านภาษี เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม

อย่างไรก็ตาม มีหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ รวมทั้งคุณ Bob Dinneen แห่งสมาคมเชื้อเพลิงที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ คุณ Dinneen ชี้ว่าจริงๆแล้วเชื้อเพลิงเอธานอลส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อราคาอาหารโลก โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารโลกแท้จริงแล้วคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากกว่า 100 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน คุณ Dinneen ยังบอกด้วยว่าอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงเอธานอลต่างยินดียอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องไม่เป็นการทำลายศักยภาพการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานของประเทศในอนาคต

และเมื่อพูดถึงความต้องการพลังงานในอนาคต คุณ Marie Brill แห่งกลุ่ม ActionAid มีความเห็นว่า แม้ข้าวโพดจะเป็นวัตถุดิบสำคัญของเชื้อเพลิงชีวภาพซึ่งจะนำไปสู่การลดการพึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศ เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานได้ แต่ก็ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงด้านอาหารเช่นกัน

และในขณะที่บรรดาสมาชิกรัฐสภาสหรัฐต่างกำลังพิจารณาตัดงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านๆเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ คาดว่าประเด็นเรื่องนโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงเอธานอลจะยังคงเป็นประเด็นร้อนที่ตอ้งมีการถกเถียงกันต่อไป